“เราต้องการคนที่มองหลายมุม ผมอาสามาทำ กทม. ผมต้องถอดเลนส์วิศวะออกเลย เพราะไม่งั้นเราจะพูดแต่เรื่องเมกะโปรเจ็กต์ซึ่งไม่ได้ตอบปัญหา มันกลายเป็นดึงทรัพยากรมาที่เมกะโปรเจ็กต์ ยกตัวอย่างคลองแสนแสบเจ็ดหมื่นแปดพันล้าน แทนที่จะแบ่งไปทำโรงเรียน 10 แห่ง โรงพยาบาล 10 แห่ง”
วันนี้ (19 ธ.ค.) ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ได้แสดงวิสัยทัศน์ล่าสุด เกี่ยวกับการสร้างเมืองที่ดี ในงาน #NightAtTheMuseum11 ที่มิวเซียมสยาม
ชัชชาติ ได้ขึ้นเวทีพูดในหัวข้อ ‘กรุงเทพฯแข็งแกร่ง ความแข็งแรงของเมืองที่สร้างได้’ โดยประเด็นสำคัญที่เขานำเสนอคือ การสร้างเมืองจำเป็นต้องเน้นกับทุนทางสังคม (social capital) โดยเริ่มจากทุนมนุษย์ การมีค่านิยมร่วมกันเช่น ประชาธิปไตย ความเท่าเทียม ความหลากหลาย ความไว้วางใจกัน รวมถึงค่านิยมต่างๆ อีกมากมาย
ชัชชาติ ระบุว่า จุดแข็งของการสร้างทุนทางสังคม คือจะทำให้เมืองและชุมชนมีทั้งข้อมูลเชิงลึก มีความเข้าจิตเข้าใจ เข้าใจปัญหา ปฏิบัติได้จริงเพื่อความอยู่รอด และมีความยืนหยุ่น รวมถึงมีความยั่งยืน
“รัฐเรามองคนเป็นภาระ ไม่เคยเอาเราไปช่วยแก้ปัญหา ปกครองเหมือนพ่อมองลูก แต่เมืองจะเข้มแข็งได้คือการมองประชาชนเป็นทุน ซึ่งรัฐต้องมาช่วยแก้ปัญหา ทางออกคือการมอบอำนาจให้ประชาชนเข้มแข็ง…รัฐไม่ไว้ใจเรา รัฐเอาทุกอย่างไปที่ส่วนกลาง แต่สิ่งสำคัญคือการกระจายอำนาจให้ประชาชนตัดสินใจร่วมกันมากขึ้น”
นอกจากนี้ ชัชชาติ ได้เสนอว่า การอาสาเข้ามาเป็นผู้ว่าฯ กทม. นั้นต้องถอดวิธีการมองแบบวิศวกร (ซึ่งตัวเขาเองจบวิศวกรรมศาสตร์มา) ออกไป แล้วใช้เลนส์แบบอื่นๆ มาช่วย เพื่อทำให้เห็นถึงปัญหาและทางออกใหม่ๆ ให้กับเมืองมากขึ้น พร้อมกับเชื่อว่า หัวใจของเมืองต้องมีคนทุกสาขามาแลกเปลี่ยนกันและสร้างพลัง
ว่าที่ผู้สมัครฯ คนนี้ ยังบอกด้วยว่า เขามีไอเดียที่อยากเห็นการสร้าง อสท. (อาสาสมัครเทคโนโลยี) ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่จะไปช่วยคนประจำชุมชน
และเขายังอยากเห็น กทม. ทำ Open Bangkok หรือการเอา Open Data มาให้ประชาชนเห็นความโปร่งใส่ในการจัดซื้อจัดจ้าง พร้อมกับย้ายการให้บริการต่างๆ ของกรุงเทพมหานครฯ ไปขึ้นบน Cloud ไม่ใช่การไปรวมไว้ที่สำนักงานเขตแต่เพียงอย่างเดียว
“เราต้องสร้างพื้นที่สาธารณะให้มีคุณภาพมากขึ้น เพราะมันคือพื้นที่ที่คนได้มาแลกเปลี่ยนมุมมองกันและกัน และต้องมีพื้นที่สาธารณะที่มีคุณภาพในแต่ละเขต ทำให้ใกล้บ้านคนในแบบที่เดินทาง 15 นาทีถึง”
“เมืองต้องการพื้นที่สาธารณะที่ประชาชนสามารถพบปะ มีปฏิสัมพันธ์กัน แบบมิวเซียมสยามนี่ก็ได้ พื้นที่สาธารณะไม่ใช่ห้าง ห้างมันเป็นปัจเจก เราไปห้างไม่ได้ไปแลกเปลี่ยนกับใคร พื้นที่สาธารณะควรกระจายไปทุกที่ เดินทางไปได้สะดวก” ชัชชาติ กล่าว
ที่มา : https://www.facebook.com/museumsiamfan/videos/922567341789570
#Brief #ชัชชาติ #กทม #bangkok #TheMATTER