นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงถึงสถานการณ์ของ COVID-19 เมื่อช่วง 13.00 น. ที่ผ่านมาว่า ถึงสถานการณ์ของ COVID-19 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงหลังปีใหม่ โดยระบุว่า ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด ไทยอาจกลับมามีผู้ติดเชื้ออยู่ที่หลัก 30,000-40,000รายต่อวันอีกครั้ง
กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า โอไมครอนระบาดเร็วกว่า และง่ายกว่า สายพันธุ์เดลตา แม้จะมีความรุนแรงน้อยกว่า แต่ก็ต้องพยายามป้องกันการแพร่ระบาดให้มาก เพราะหากมีจำนวนผู้ติดเชื้อสูง อาจส่งผลกระทบต่อระบบการดูแลของสาธารณสุขได้ ซึ่ง สธ.ได้เผยแผนคาดการณ์ไว้ดังนี้
- สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด
กรณีที่ไม่มีมาตรการป้องกันโรค ขณะที่อัตราการแพร่เชื้อของโอไมครอนในประเทศเพิ่มสูงขึ้น และมีอัตราของประชาชนที่ได้รับวัคซีนใกล้เคียงกับช่วงสิ้นปีนี้ ซึ่งอยู่ที่ 2-3 ล้านโดสต่อสัปดาห์ ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ อาจทำให้ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงถึงประมาณ 30,000-40,000 รายต่อวัน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตอาจสูงถึงประมาณ 160-180 รายต่อวัน
- สถานการณ์แบบที่เป็นไปได้
คือแม้อัตราการแพร่ของเชื้อโอไมครอนในประเทศจะสูงขึ้น และมีอัตราของประชาชนที่ได้รับวัคซีนใกล้เคียงกับช่วงสิ้นปีนี้ แต่หากมีมาตรการป้องกันโรคที่มีประสิทธิภาพ ก็อาจทำให้ยอดผู้ติดเชื้ออยู่ที่ประมาณ 15,000-20,000 รายต่อวัน และเสียชีวิตอยู่ที่ประมาณ 90-100 รายต่อวัน
- สถานการณ์ที่ดีที่สุด
เป็นกรณีที่มาตรการคุมเข้มสูงสุด โดยอัตราการแพร่เชื้อของโอไมครอนไม่สูงมากนัก เนื่องจากยังควบคุมการระบาดในประเทศช่วงต้นปี 2565ได้ พร้อมกับที่มีเร่งฉีดวัคซีนเข็ม 1-4 ให้ครอบคลุมประชากรทุกกลุ่มได้มากกว่า 4 ล้านโดสต่อสัปดาห์ ซึ่งคาดว่าจะทำให้มีผู้เชื้อติดเชื้อ 10,000 รายต่อวัน และเสียชีวิต 50-60 รายต่อวัน
นอกจากนี้ สธ.ยังแถลงถึงสถานการณ์ของเตียงในปัจจุบันว่า ตอนนี้ ใช้เตียงสำหรับผู้ป่วยสีแดงอยู่ 31.6% มี ส่วนเตียงสีเหลือง ใช้อยู่ประมาณ 25.6% ขณะที่เตียงสีเขียวว่างอยู่เป็นจำนวนมากมาก ใช้ประมาณ 6.4%
ส่วนเรื่องยาฟาวิพิราเวียร์ สธ.ระบุว่า ตอนนี้มีสำรองประมาณ 15 ล้านกว่าเม็ด ซึ่งประมาณการณ์ใช้ได้อย่างน้อย 2 เดือน โดยมีการสำรองยาไว้ส่วนหนึ่งและองค์การเภสัชกรรมสามารถผลิตได้ หากอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องการยาเพิ่ม
ขณะเดียวกัน วันนี้ (27 ธันวาคม) พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด เปิดเผยว่า ไทยตรวจพบผู้ติดเชื้อแล้ว 514 คน ในจำนวนนี้มี 1 ใน 3 เป็นผู้สัมผัสติดเชื้อในประเทศ ซึ่งคลัสเตอร์หลักๆ ที่พบเป็นคลัสเตอร์ จ.กาฬสินธุ์ ที่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มจำนวน 125ราย
นอกจากนี้ยังมีคลัสเตอร์ จ.ปัตตานี ที่สัมผัสผู้ติดเชื้อที่เดินทางกลับจากการแสวงบุญ ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งคลัสเตอร์นี้ยังมีอีกที่ นนทบุรี อยุธยา กทม. ทั้งหมดอยู่ระหว่างการยืนยันสายพันธุ์
อย่างไรก็ดี จากการเก็บตัวอย่างจำนวน 698 ตัวอย่าง ส่วนใหญ่ยังเป็นสายพันธุ์เดลตา 55.4% แต่ถ้าเทียบสัดส่วนของผู้เดินทางทั้ง 333 ตัวอย่าง จะพบว่า เป็นสายพันธุ์โอไมครอน 56.2%
อ้างอิงจาก
https://www.hfocus.org/content/2021/12/24020
https://www.prachachat.net/marketing/news-829945
https://workpointtoday.com/omicroncovid/
#Brief #TheMATTER