ต้นเหตุของฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 หรือที่บางคนเรียกกันว่า ‘ฝุ่นพิษ’ ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล เกินครึ่งจะมาจากการคมนาคมขนส่ง โดยเฉพาะการสันดาปที่ไม่สมบูรณ์ในเครื่องยนต์ แต่แม้วิกฤต COVID-19 พร้อมกับมาตรการต่างๆ ของภาครัฐจะทำให้ตลอดทั้งปี 2564 เราเดินทางกันน้อยลง และใช้ชีวิตในบ้านเป็นหลัก ทว่าวิกฤตฝุ่นพิษนี้กลับดีขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ..หรือจริงๆ จะใช้คำว่าดีขึ้นอาจพูดได้ไม่เต็มปากเท่าไร
Rocket Media Lab เพิ่งเปิดเผยรายงาน สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ของ กทม.ในปี 2564 โดยอ้างอิงข้อมูลสถิติจากเว็บไซต์ The World Air Quality Index Project ก่อนจะพบว่า ในปีที่ผ่านมา คุณภาพอากาศของ กทม.อยู่ในระดับ ‘สีแดง’ (ค่าฝุ่น PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ระหว่าง 151-200 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร) หมายถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ มากถึง 12 วัน คิดเป็น 3.29% ระดับ ‘สีส้ม’ (ระหว่าง 101-150 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร) หรือมีผลต่อสุขภาพต่อกลุ่มคนที่มีสัมผัสไวต่อมลพิษ 61 วัน คิดเป็น 16.71% ระดับ ‘สีเหลือง’ (ระหว่าง 51-100 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร) อากาศมีคุณภาพปานกลาง 202 วัน คิดเป็น 55.34% และระดับ ‘สีเขียว’ (น้อยกว่า 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร) อากาศมีคุณภาพดี 90 วัน คิดเป็น 24.66%
โดยเดือนที่ กทม.มีค่าเฉลี่ยคุณภาพอากาศเลวร้ายที่สุดในปี 2564 ยังคงเป็นเดือนกุมภาพันธุ์ เช่นเดียวกันกับในปี 2563
ทั้งนี้ ทาง Rocket Media Lab ยังเปรียบเทียบการใช้ชีวิตภายใต้คุณภาพอากาศเช่นนี้ของ กทม.กับการสูบบุหรี่ว่า โดยรวมแล้วในปี 2564 คน กทม.สูดดมฝุ่นพิษ PM2.5 เทียบเท่าการสูบบุหรี่จำนวน 1261 มวน ลดลง 9 มวน จากปี 2020 ที่จำนวน 1,270 มวน ซึ่งอาจจะพูดได้ว่า มีคุณภาพอากาศดีกว่าปีก่อนหน้าเพียงเล็กน้อย
ในปี 2562 รัฐบาลได้ประกาศให้การแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ซึ่งเกิดขึ้นทั่วประเทศ ไม่ใช่เฉพาะ กทม. เป็น ‘วาระแห่งชาติ’ แต่ถึงปัจจุบัน หลายๆ พื้นที่ยังต้องเผชิญกับปัญหาคุณภาพอากาศกันอยู่ แม้ตลอดหลายปีหลัง มีความพยายามผลักดันร่างกฎหมายเกี่ยวกับอากาศสะอาดอย่างน้อย 5 ฉบับ แต่หากไม่ถูกนายกรัฐมนตรีตีตกไป (ร่างกฎหมายการเงิน นายกฯ มีอำนาจตีตกได้) ก็ยังอยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็น หรือรอยื่นต่อประธานสภาฯ เพื่อขอให้บรรจุระเบียบวาระพิจารณา
- ดูรายงานเกี่ยวกับคุณภาพอากาศใน กทม. ในปี 2564 จาก Rocket Media Lab เพิ่มเติมได้ที่: https://rocketmedialab.co/pm-25-bkk-2021/
#Brief #TheMATTER