เมื่อเร็วๆ นี้มีดราม่าโรงเรียนประถมฯ แห่งหนึ่งประกาศรับสมัครเด็กเข้าศึกษา โดยให้ผ่านการทดสอบต่างๆ โดยมีข้อหนึ่งบอกว่าหากเด็ก ‘ร้องไห้’ จะโดนหักคะแนน ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์จำนวนมากว่าเป็นเกณฑ์ที่ไม่เหมาะสมจนสุดท้ายต้องยกเลิกเงื่อนไขดังกล่าวออกไป
แล้วคุณล่ะคิดว่าการร้องไห้ควรถูกห้ามไหม?
การร้องไห้ในทารก เด็กเล็ก รวมถึงเด็กโตถูกถกเถียงมานานว่าควรจัดการอย่างไร ควรปล่อยให้เด็กร้องไห้ไหม แล้วการปล่อยให้เด็กร้องไห้ในที่สาธารณะเป็นเรื่องเสียมารยาทหรือเปล่า ซึ่งอย่างแรกที่เราควรทำความเข้าใจก่อนคือการร้องไห้เป็นธรรมชาติของมนุษย์ กลไกนี้ถูกสร้างขึ้นมาด้วยเหตุผลบางอย่าง และเหตุผลนั้นอาจเป็นประโยชน์กว่าที่เราคิด
บทความที่เผยแพร่ผ่านทาง Harvard Health Publishing โดย Harvard Medical School ระบุว่า ในทางการแพทย์การร้องไห้เปรียบเสมือนกับยาระบาย ระหว่างที่เราขับน้ำตาทางอารมณ์ (Emotional Tears) ออกมา
ร่างกายจะหลั่งออกซิโทซินและเอ็นดอร์ฟิน ซึ่งเป็นสารบรรเทาความเจ็บปวด เป็นกลไกที่ทำให้มนุษย์ปลดปล่อยความเครียด ความอึดอัดจากความรู้สึกไม่พอใจ ความอยุติธรรม ความน้อยใจ หรืออารมณ์ในทางลบอื่นๆ ซึ่งหากเก็บไว้โดยไม่ได้รับการปลดปล่อยอาจส่งผลเสียในระยะยาวทั้งทางร่างกายและทางจิตใจ
นอกจากประโยชน์ทางร่างกาย บางครั้งการร้องไห้ยังส่งผลดีต่อการพัฒนาตัวตนด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวัยเด็ก ศาสตราจารย์แพทริเซีย ฮาวเลย์ (Patricia Hawley) จาก University of Missouri ได้ศึกษาผลกระทบต่อเด็กจากการที่ผู้ปกครองหรือคนใกล้ชิดบอกให้เด็กหยุดร้องไห้ด้วยวิธีที่แตกต่างกันไปได้แก่
- บังคับให้เด็กหยุดร้องไห้ด้วยการข่มขู่
- บอกว่าการร้องไห้เป็นเรื่องของคนอ่อนแอ
- ไม่สั่งให้เด็กหยุดร้องไห้ทันที แต่ชี้ให้เห็นว่าการร้องไห้ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ และแนะนำวิธีแสดงอารมณ์แบบอื่น
- ช่วยเด็กจัดการกับปัญหาที่ต้องต้นเหตุของการร้องไห้
แพทริเซียพบว่า การจัดการในรูปแบบ 1 และ 2 ซึ่งเป็นวิธีที่กดดันให้เด็กหยุดร้องไห้อย่างรวดเร็วโดยไม่พิจารณาปัจจัยอื่นๆ นั้นส่งผลเสียต่ออารมณ์และการพัฒนาตัวตนของเด็ก แต่การแก้ปัญหาแบบ 3 และ 4 ที่ผู้ปกครองให้ความยืดหยุ่น ถามความเห็น เสนอทางแก้ปัญหาช่วยให้เด็กรู้จักควบคุมตัวเองและรู้จักการแก้ปัญหาในระยะยาว
ที่ผ่านมา หลายครั้งการร้องไห้ของเด็กในที่สาธารณะถูกมองว่าเป็นเรื่องเสียมารยาท และไม่สมควร หลายองค์กรทั่วโลกจึงออกมารณรงค์ให้มองการร้องไห้ของเหล่าเด็กเล็กเป็นเรื่องปกติ และยกเรื่อง ‘สิทธิ์ในการร้องไห้ขึ้นมา’ ซึ่งเมื่อ 3 ปีก่อน ญี่ปุ่นเองก็มาเคลื่อนไหวเรื่องนี้เช่นกัน โดยเรียกร้องให้สังคมมองการร้องไห้ของเด็กเป็นเรื่องปกติ เพื่อลดความกังวลของเด็กและผู้ปกครองเมื่อต้องพาลูกหลานออกไปที่สาธารณะ
อย่างไรก็ตาม ต้องบอกก่อนว่าการร้องไห้อาจจะไม่ได้มีแต่ข้อดีเสมอไป และใช่ว่าเราควรปล่อยปะละเลยการร้องไห้ทุกรูปแบบ โดยเฉพาะในทารกที่ยังไม่สามารถสื่อสารในอื่นได้ แม้จะมีการศึกษาบอกไว้ว่า การปล่อยให้เด็กทารกร้องไห้และหยุดไปเองจะช่วยให้พวกเขาควบคุมตัวเองได้มากขึ้น ***แต่ไม่ใช่ว่าควรใช้วิธีนี้ทุกครั้งเสมอไป*** ผู้ปกครองควรพิจารณาในแต่ละสถานการณ์ว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กเสียใจ เพราะหากปล่อยให้ร้องไห้โดยไม่ได้รับการใส่ใจหรือดูแล อาจส่งผลเสียต่อตัวเด็กในท้ายที่สุด
อ้างอิงจาก
https://qz.com/…/japanese-politicians-are-pushing-to…/
https://www.independent.co.uk/…/babies-left-to-cry-can…
https://www.health.harvard.edu/…/is-crying-good-for-you…
https://www.psychologytoday.com/…/is-it-always-wrong…