ผู้ที่จำเป็นต้องรับการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะอาจไม่ต้องรอนานเท่าเดิม นักวิทยาศาสตร์พบวิธีเปลี่ยนปอดที่ได้รับการบริจาคมาให้เป็น ‘อวัยวะสากล’ สามารถปลูกถ่ายให้ผู้ป่วยคนใดก็ได้ โดยไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงกรุ๊ปเลือด ตราบใดที่ขนาดอวัยวะสามารถเข้ากันได้
งานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Science Translational Medicine นี้ แสดงให้เห็นว่าหมู่เลือดของปอดสามารถเปลี่ยนให้เป็นกลางก่อนเข้าสู่การปลูกถ่ายได้ โดยอาศัยการทำงานเอ็นไซม์คู่หนึ่ง ได้แก่ FpGalNAc deacetylase และ FpGalactosaminidase ในการกำจัดแอนติบอดีในเลือด ซึ่งเป็นหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ผู้ป่วยที่มีเลือดคนละหมู่ไม่สามารถบริจาคอวัยวะให้กันได้
ซึ่งอธิบายคร่าวๆ ก่อนว่าเลือดแต่ละกรุ๊ปจะมีแอนติเจนแตกต่างกันไป กรุ๊ปเลือด A มีแอนติเจนชนิด A ที่เซลล์เม็ดเลือดแดง กรุ๊ปเลือด B มีแอนติเจนชนิด B กรุ๊ปเลือด AB มีแอนติเจนทั้งชนิด A และ B แต่กรุ๊ปเลือด O ไม่มีแอนติเจน ทำให้ผู้ป่วยกรุ๊ป A, B และ AB สามารถรับเลือดกรุ๊ป O ได้ แต่กรุ๊ป O จะรับได้เฉพาะเลือกกรุ๊ปเดียวกันเท่านั้น ซึ่งการกำจัดแอนติบอดีตามงานวิจัยจะช่วยทลายกำแพงนี้ไปได้
หลังการทดลอง นักวิจัยสามารถเปลี่ยนปอด (ซึ่งไม่เหมาะที่จะปลูกถ่ายในผู้ป่วย) ที่ใช้เลือดกรุ๊ป A จำนวน 8 ปอดให้เป็นกรุ๊ป O สากล ที่สามารถปลูกถ่ายให้กับทุกกรุ๊ปเลือดได้สำเร็จ
นอกจากนี้ขั้นตอนการเปลี่ยนผ่านยังใช้เวลาเพียงไม่นาน โดยจากการทดลองในห้องแล็บพบว่า แอนติเจนของเลือดกรุ๊ป A ประมาณ 97% ถูกกำจัดออกไปในเวลาเพียง 4 ชั่วโมง โดยไม่เป็นอันตราย
แม้ว่านี่จะเป็นเพียงโปรเจ็กต์บุกเบิกที่ยังจำเป็นต้องศึกษาต่อ แต่ทีมวิจัยคาดว่าหากในอนาคตวิธีนี้ใช้ได้จริง น่าจะช่วยเพิ่มจำนวนปอดกรุ๊ป O ได้มากขึ้นถึง 30% และนั่นจะทำให้ผู้คนที่รอการปลูกถ่ายอวัยวะมีความหวังมากขึ้นด้วย
ดร.ริชาร์ด เอ็น เพียร์สัน ศาสตราจารย์ด้านศัลยกรรมจากโรงเรียนแพทย์ฮาร์วาร์ดและผู้อำนวยการด้านวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดกล่าวว่า ตามปกติแล้วการจับคู่อวัยวะของผู้บริจาคและผู้บริจาคจะพิจารณาจากกรุ๊ปเลือดและขนาดอวัยวะ ซึ่งหากปลดล็อกกรุ๊ปเลือดได้ น่าจะช่วยชีวิตคนได้อีกมาก
ตามรายงานประจำปี 2019 ใน The Journal of Heart and Lung Transplantation ระบุว่า ผู้ป่วยกรุ๊ปเลือด O เป็นกลุ่มที่ต้องรออวัยวะนานที่สุด โดยมีความเสี่ยงจะเสียชีวิตขณะรอการปลูกถ่ายอวัยวะสูงถึง 20% มากกว่ากลุ่มเลือดอื่นๆ เพราะข้อจำกัดในการรับเลือด
แผนการหลังจากนี้ นักวิจัยจะเริ่มทำการทดลองในหนูเพิ่มเติม แล้วหากประสบความสำเร็จจึงจะมีการทดสอบทางคลินิกในมนุษย์ต่อไป
อ้างอิงจาก
https://www.sciencealert.com/lungs-converted-to-a…
https://www.livescience.com/universal-blood-type…