ผ่านมา 4 วันแล้วนับตั้งแต่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซีย ประกาศปฏิบัติการพิเศษ โจมตีภูมิภาคดอนบาสทางตะวันออกของยูเครน จนนำมาสู่ความรุนแรง และการสูญเสียในหลายพื้นที่อย่างที่เห็น
หลังรัสเซียเปิดฉากความขัดแย้ง ก็มีผู้นำ องค์กร ภาคประชาชนต่างๆ ทั้งในและนอกยูเครน ออกมาตอบโต้ปฏิบัติการทางการทหารของรัสเซียไม่ว่าจะในรูปแบบของการเดินประท้วง การแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ไปจนถึงการออกมาตรการเพื่อปิดกั้นรัสเซีย และปกป้องยูเครนจากการโดนบุก The MATTER จะพาไปดูว่าในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ประเทศต่างๆ มีแนวทางโต้ตอบรัสเซียอย่างไรบ้าง
เพื่อตัดกำลังรัสเซียในการเดินหน้าโจมตียูเครน สหรัฐฯ สหภาพยุโรป สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น แคนาดา ไต้หวัน นิวซีแลนด์ และอีกหลายประเทศได้ทยอยออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียในรูปแบบต่างๆ โดยพุ่งเป้าไปที่การเงิน ธนาคาร น้ำมัน และการทหาร ซึ่งล้วนนำไปสู่เป้าหมายเดียวคือการทำให้เศรษฐกิจของรัสเซียหยุดนิ่งลงชั่วคราว จนกว่าจะยกเลิกปฏิบัติการทางทหาร
– สหภาพยุโรป : ผู้นำประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปลงความเห็นร่วมกันว่าให้คว่ำบาตรการเงิน พลังงาน และการขนส่งของรัสเซีย โดยใช้มาตรการควบคุมการส่งออกที่เข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะเครื่องบินและชิ้นส่วนอะไหล่ที่จำเป็นต่อการบำรุงรักษากองเรือ ไปจนถึงเทคโนโลยีการกลั่นน้ำมัน และเซมิคอนดักเตอร์
ไม่เพียงเท่านั้น สหภาพยุโรปยังประกาศว่าจะจับตาดูการใช้การและโยกย้ายทรัพย์สินของปูติน และเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศอย่างใกล้ชิด ในกรณีที่พบว่ามีการเชื่อมโยงกับการนำไปสมทบกับปฏิบัติการบุกยูเครน
– สหรัฐฯ : สหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของรัสเซีย และสถาบันการเงินขนาดใหญ่ของรัสเซีย 2 แห่ง ได้แก่ Sberbank และ VTB Bank รวมไปถึงธนาคารอื่นๆ อย่าง Otkritie, Sovcombank, Novikombank และธนาคารที่สำคัญของเบลารุส 2 แห่ง รวมถึงบุคคลสำคัญที่มีส่วนเกี่ยวข้องทางการเงิน เพื่อตัดเส้นทางการเงินของรัสเซีย
นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังประกาศจำกัดการส่งออกสินค้าไปยังรัสเซีย โดยเฉพาะสินค้าเทคโนโลยีและกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ เช่น อะไหล่รถยนต์ ไปจนถึงชิ้นส่วนอุปกรณ์ต่างๆ
– อังกฤษ : นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ประกาศคว่ำบาตรบริษัทเอกชนกว่า 100 แห่ง รวมถึงหน่วยงาน และผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลรัสเซีย ซึ่งมาตรการล่าสุดนี้ ขยายมาจากช่วงแรก ที่คว่ำบาตรธนาคารสัญชาติรัสเซีย 5 แห่ง และมหาเศรษฐีที่เกี่ยวข้องกับปูติน พร้อมทั้งสั่งห้ามบุคคลตามรายชื่อเดินทางออกจากประเทศ ติดต่อกับพลเมืองชาวอังกฤษ และทำธุรกิจในสหราชอาณาจักร
– ออสเตรเลีย : เป็นอีกหนึ่งประเทศที่เดินหน้านโยบายกดดันทางเศรษฐกิจรัสเซีย โดยแนวทางคว่ำบาตรของออสเตรเลียมีความสอดคล้องกับสหรัฐฯ ที่มุ่งเน้นสถาบันการเงินอย่างธนาคารทั้งของรัสเซียและเบลารุสที่ออกหน้าสนับสนุนรัฐบาลรัสเซีย
– แคนาดา : ประกาศคว่ำบาตรสถาบันการเงินใหญ่ของรัสเซีย ห้ามประชาชนซื้อขายตราสารหนี้ของรัฐบาลรัสเซีย ไปจนถึงออกมาตรการจัดการกับผู้มีอิทธิพลและนักการเมืองระดับสูง อาทิ คณะมนตรีความมั่นคงของรัสเซีย รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นต้น
– นิวซีแลนด์ : นายกรัฐมนตรี จาซินดา อาร์เดิร์น ประกาศห้ามทำการค้ากันกองทัพและกองกำลังทางทหารของรัสเซีย ขณะที่กระทรวงต่างประเทศเองก็ระงับการหารือแบบทวิภาคีกับรัสเซียอย่างไม่มีกำหนด และออกมาตรการจำกัดการเดินทางของเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง
นอกจากนี้ เช็ก ญี่ปุ่น และไต้หวันเองออกมาประกาศเข้าร่วมมาตรการลงโทษรัสเซียร่วมกับอีกหลายๆ ชาติ สำหรับไต้หวัน จะเน้นไปที่การจำกัดส่งออกสินค้าเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งจะมีการหารือร่วมกันประเทศสมาชิกเพื่อหามาตรการที่เหมาะสมต่อไป ขณะที่ญี่ปุ่นเตรียมพิจารณาออกมาตรการคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ระดับสูง ห้ามจำหน่ายพันธบัตรรัฐบาลในประเทศ และระงับส่งออกสินค้าเซมิคอนดักเตอร์ ส่วนเช็ก จำกัดเส้นทางการบิน
#ตัดรัสเซียจากระบบชำระเงินระหว่างธนาคารทั่วโลก (SWIFT)
ล่าสุด เช้าวันนี้ สหรัฐฯ และสหภาพยุโรปลงความเห็นตรงกันว่าจะตัดธนาคารของรัสเซียบางแห่งออกจากระบบชำระเงินระหว่างธนาคารทั่วโลก หรือที่รู้จักว่า SWIFT ซึ่งเป็นอีกหนึ่งมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจเพิ่มเติมที่ออกมา
โดยสหภาพยุโรปแถลงว่า แนวทางนี้ทำให้รัสเซียถูกตัดขาดจากระบบการเงินสากล และจะทำให้การทำธุรกรรมต่างๆ ในระดับโลกยากลำบากมากยิ่งขึ้น
อธิบายคร่าวๆ ก่อนว่า SWIFT หรือสมาคมโทรคมนาคมทางการเงินระหว่างธนาคาร ทำหน้าที่เป็นเครือข่ายการส่งข้อความการชำระเงินระหว่างประเทศ และเปรียบเสมือนตัวกลางการโอนเงินที่มีธนาคารและสถาบันการเงินมากกว่า 10,000 แห่งอยู่ในระบบ ดังนั้นการตัดเส้นเลือดใหญ่ทางการเงินของรัสเซีย จึงส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางการเงินแทบจะในทันที
ชาร์ล มีแชล (Charles Michel) ประธานสภาสหภาพยุโรป เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ว่า สหภาพยุโรปจะส่งมอบความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครน แต่ยังไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมใดๆ แต่สำนักข่าว CNN รายงานว่า สาธารณรัฐเช็ก เนเธอร์แลนด์ และโปรตุเกสได้แถลงการณ์ เตรียมส่งอาวุธ อุปกรณ์จำเป็น รวมถึงกองกำลังไปช่วยเหลือยูเครนแล้ว
นอกจากนี้มีรายงานว่า เยอรมนีก็เตรียมจัดส่งรถถัง อาวุธ และยุทโธปกรณ์ต่างๆ ไปเช่นกัน ซึ่งนับว่าเป็นการตัดสินใจที่สร้างความประหลาดใจให้กับทั่วโลก เพราะนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เยอรมนียึดกฎไม่ส่งอาวุธต่างๆ ไปยังพื้นที่วิกฤติ โดยก่อนหน้านี้ส่งหมวกนิรภัยไป 5,000 อัน และโดนวิจารณ์ว่าช่วยเหลือไม่มากพอ
ส่วนสหรัฐฯ เองก็ประกาศส่งอาวุธและอุปกรณ์จำเป็นต่างๆ รวมมูลค่ากว่า 350 ล้านดอลลาร์ให้กับยูเครน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ มอบความช่วยเหลือมาแล้ว 2 ครั้ง รวมมูลค่ากว่า 300 ล้านดอลลาร์
#ไม่แข่งฟุตบอลกับทีมชาติรัสเซีย
สหพันธ์ฟุตบอลโปแลนด์ เช็ก และสวีเดน ประกาศไม่ร่วมลงแข่งขันรอบคัดเลือก นัดเพลย์ออฟ กับรัสเซีย เพื่อแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับรัสเซียกรณีบุกยูเครน ขณะที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) เองก็ออกแถลงการณ์ว่าจะติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งอย่างใกล้ชิด ซึ่งหากมีแนวโน้มจะรุนแรงมากขึ้น อาจมีมาตรการคว่ำบาตรทางกีฬาออกมาให้ได้เห็นเพิ่มเติม
อ้างอิงจาก
https://www.nytimes.com/…/russia-us-ukraine-sanctions.html
https://www.reuters.com/…/eu-says-facilitate-delivery…/
https://edition.cnn.com/…/h_c28fef14820e4668f2eb30bcadc…
https://www.politico.eu/…/ukraine-war-russia-germany…/
https://time.com/6151390/sports-russia-ukraine-f1-football/
https://www.aljazeera.com/…/list-of-sanctions-on-russia…
https://www.bbc.com/news/world-europe-60540903