ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่รัฐที่กระทำกับนักกิจกรรมหลายคน มีทั้งการจับตัว ‘พิมชนก’ กลุ่มมังกรปฏิวัติ ที่ต้องถูกควบคุมตัวจากกรุงเทพฯ ไปถึงเชียงใหม่ และ ‘เก็ท’ กลุ่มโมกหลวงฯ ที่ถูกตำรวจควบคุมตัวไปจากเส้นทางขบวนเสด็จ รวมถึงกรณียื่นถอนประกันนักกิจกรรม และการติดตามโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจำนวนหลายคน
The MATTER จึงสรุปเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นล่าสุด เพื่ออัพเดตสถานการณ์สั้นๆ ว่านักกิจกรรมหลายคนต้องเจอกับอะไรบ้าง หลังจากออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง
1. ‘พิมชนก’ โดนจับตามหมายจับ ม.112 ที่เชียงใหม่ ก่อนให้ประกันพร้อมเงื่อนไข
เหตุการณ์หนึ่งที่เป็นที่ค่อนข้างเป็นที่จับตาในสัปดาห์ที่ผ่านมา คือกรณีของการจับกุม ‘พิมชนก ใจหงษ์’ นักกิจกรรมกลุ่มมังกรปฏิวัติ เมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2565 ในหมายจับตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ของศาลจังหวัดเชียงใหม่ ก่อนที่ศาลจะให้ประกันตัวพร้อมเงื่อนไขในวันถัดมา
พิมชนกถูกจับกุมในช่วงเย็นวันที่ 18 มี.ค. โดยถูกนำตัวไปที่ สน.แสมดำ เพื่อทำบันทึกจับกุม ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำตัวออกจาก สน.แสมดำ เวลาประมาณ 19.00 น. เดินทางถึง สภ.แม่โจ้ จ.เชียงใหม่ ทางรถยนต์ เวลาประมาณ 4.45 น. วันที่ 19 มี.ค.
เจ้าหน้าที่ระบุว่า พ.ต.อ.นพฤทธิ์ กันทา ผู้กำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับมอบหมายจากคณะทํางานคดีความมั่นคงภูธรจังหวัดเชียงใหม่และภูธรภาค 5 ให้พิจารณากรณีที่พิมชนกโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กในลักษณะดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ จึงเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดี
ในช่วงเช้าของวันที่ 19 มี.ค. ทนายความได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวกับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ขณะเดียวกับที่พนักงานสอบสวนยื่นขอฝากขัง จนกระทั่งศาลได้สั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว พร้อมเงื่อนไข คือ (1) ห้ามโพสต์ข้อความเสื่อมเสียบนโซเชียลมีเดีย หรือกระทำการเสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ (2) ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล และ (3) ให้มารายงานตัวต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ทุก 12 วัน
เหตุการณ์จับกุมตัวคร้งนี้ แม้จะได้รับการปล่อยตัวในภายหลัง แต่ก็ทำให้พิมชนกไม่สามารถไปสอบ TCAS ที่มีขึ้นในวันที่ 19 มี.ค. ได้ ซึ่งพิมชนกก็ออกมาเปิดเผยว่า “ไม่ได้สอบก็ไม่เป็นไร” โดยจะรอสอบต่อไปในโอกาสหน้า
2. ‘เก็ท’ กลุ่มโมกหลวงฯ ถูกตำรวจจับ ระหว่างรอรับขบวนเสด็จ
เหตุการณ์จับกุมตัวนักกิจกรรมอีกเหตุการณ์หนึ่ง คือกรณีของ ‘เก็ท’ โสภณ สุรฤทธิ์ธำรง จากกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ จากการพกป้ายพาดพิงถึงสถาบันกษัตริย์ขณะรอรับขบวนเสด็จเมื่อวันที่ 18 มี.ค.
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า เก็ทถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยขณะเดินทางไปรอรับขบวนเสด็จ ร.10 และถูกนำตัวไปที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.)
บันทึกจับกุมของเจ้าหน้าที่ระบุว่า เป็นการปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการถวายความปลอดภัย นอกจากนี้ยังได้พบแผ่นกระดาษที่มีข้อความที่เป็น “ความเห็นต่างต่อสถาบัน” จึงได้สั่งให้ออกไปจากเส้นทางพระราชดำเนิน และเมื่อไม่ปฏิบัติตาม จึงได้จับกุมตัวส่งพนักงานสอบสวน
เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368 “ทราบคําสั่งของเจ้าพนักงานซึ่งสั่งการตามอํานาจที่มีกฎหมายให้ไว้ไม่ปฏิบัติตามคําสั่งนั้นโดยไม่มีเหตุหรือข้อแก้ตัวอันสมควร” แต่เก็ทได้ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา นอกจากนี้ตำรวจยังแจ้งว่าจะตรวจปัสสาวะด้วย อ้างว่า “คนปกติไม่น่าจะคิดทำอะไรแบบนี้ได้” แต่เก็ทไม่อนุญาตให้ตรวจ
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อนุญาตให้ประกันตัวในชั้นสอบสวน วางหลักทรัพย์ 5,000 บาท แต่ทนายความสามารถใช้ตำแหน่งประกันตัวได้ โดยตำรวจได้นัดส่งสำนวนให้อัยการในวันที่ 8 เม.ย. นี้
3. ตำรวจยื่นถอนประกัน ‘ตะวัน’ ‘ใบปอ’ และ ‘เนติพร’
วันที่ 18 มี.ค. ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รายงานถึงกรณีการยื่นคำร้องขอถอนประกันนักกิจกรรมถึง 3 คนด้วยกัน คือ ‘ตะวัน’ ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ จากกลุ่มมังกรปฏิวัติ และ ‘ใบปอ ทะลุวัง’ กับ ‘เนติพร’ นักเคลื่อนไหวที่ทำกิจกรรมเรื่องโพลขบวนเสด็จ
สำหรับกรณีของตะวัน ศูนย์ทนายฯ ระบุว่า ได้รับแจ้งจากนายประกันของตะวันว่า พนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องขอถอนประกันในคดี ม.112 ที่ศาลอาญา รัชดา จากกรณีที่ตะวันได้ไลฟ์สดก่อนมีขบวนเสด็จเมื่อวันที่ 5 มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งศาลได้นัดไต่สวนการถอนประกัน วันที่ 5 เม.ย. นี้
ส่วนกรณีของใบปอและเนติพร ศูนย์ทนายฯ รายงานจากการตรวจสอบข้อมูลที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ว่า พนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องถอนประกับนักกิจกรรมทั้ง 2 คน โดยศาลได้นัดไต่สวนในวันที่ 19 เม.ย. นี้
4. ‘ตะวัน’ ‘ใบปอ’ และ ‘ไอซ์’ ถูกตำรวจติดตาม
อีกหนึ่งกรณีที่เกิดบ่อยขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงที่ผ่านมา คือ การที่นักกิจกรรมถูกติดตามโดยเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ ซึ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่ามีนักกิจกรรมที่ถูกติดตาม คือ ‘ตะวัน’ จากกลุ่มมังกรปฏิวัติ ‘ใบปอ’ จากกลุ่มทะลุวัง และ ‘ไอซ์’ นักกิจกรรมวัย 14 ปี
วันที่ 18 มี.ค. ประชาไทรายงานว่า ตะวันถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจขับรถจักรยนยนต์ติดตามขณะกำลังเดินทางไปทำกิจกรรม โดยที่เจ้าหน้าที่ได้เข้าประชิดรถของตะวันและส่องดูในรถด้วย รวมถึงได้มีการขับจักรยานยนต์ขึ้นทางด่วนเพื่อติดตามรถของตะวัน ก่อนหน้านี้ ตะวันก็เคยเปิดเผยว่าตัวเองถูกตำรวจติดตามอยู่หลายครั้ง
ในวันเดียวกัน ใบปอ ทะลุวัง ได้โพสต์วิดีโอในแอคเคาต์อินสตาแกรมส่วนตัว ขณะที่กำลังถูกเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบติดตาม ใบปอระบุว่า ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวติดตามมาตั้งแต่เช้า และยังได้พูดกับใบปอว่า จะ “ตามไปส่งถึงห้อง” อีกด้วย
นอกจากนี้ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนยังรายงานอ้างถึงโพสต์เฟซบุ๊กของตะวัน วันที่ 17 มี.ค. ว่า ‘ไอซ์’ สุไอย์ หมัดป้องตัว นักกิจกรรมวัย 14 ปี ถูก “ตำรวจคุกคามถึงบ้าน” 2 ครั้งในวันเดียว ครั้งแรกไอซ์ระบุว่า ตำรวจเข้ามาดูที่บ้าน และได้ถ่ายภาพบ้านเอาไว้ ส่วนตอนบ่าย ตำรวจได้เข้ามาพูดคุยกับไอซ์และพ่อของไอซ์ โดยได้บอกกับไอซ์ว่า “มาเก็บข้อมูลเฉยๆ”
อ้างอิงจาก
https://tlhr2014.com/archives/41550
https://twitter.com/TLHR2014/status/1504747070292324355
https://twitter.com/TLHR2014/status/1504751891661602817
https://twitter.com/TLHR2014/status/1504396966171582469
https://prachatai.com/journal/2022/03/97762
https://prachatai.com/journal/2022/03/97753