เป็นโมเมนต์ที่สะเทือนฮอลลีวู้ด เมื่อวิลล์ สมิธ บุกเข้าไปตบหน้า คริส ร็อก กลางเวทีออสการ์ครั้งที่ 94
หลังจากที่ร็อกในฐานะพิธีกร เล่นมุกพาดพิงถึง เจดา พิงเก็ตต์ สมิธ ว่าจะรอเห็นเธอในภาพยนตร์ ‘G.I. Jane 2’ ซึ่งเป็นเรื่องที่นักแสดงต้องโกนผม ชัดเจนว่าล้อเลียนถึงทรงผมของเธอ จนทำให้วิลล์ไม่พอใจอย่างมากจนต้องเข้าไปตบหน้า และตะโกนว่าอย่าพูดถึงชื่อภรรยาของเขาอีก
สำหรับเรื่องนี้ แฟนๆ ทราบกันดีอยู่แล้วว่า เจดา พิงเก็ตต์ สมิธ (Jada Pinkett Smith) นักร้อง นักแสดง และพิธีกรมือรางวัลหลายรางวัล กำลังต้องเผชิญกับโรค ‘ผมร่วงเป็นหย่อม’ (Alopecia Areata) ในวัย 50 ปี ซึ่งเป็นเรื่องที่เธอเปิดเผยและไม่เคยปิดบังมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว
เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2021 ที่ผ่านมา เจดาโพสต์วิดีโอบนอินสตาแกรมของเธอ เปิดเผยเรื่องนี้ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ไม่เห็นร่องรอยว่าเสียใจกับการเป็นโรคนี้แต่อย่างใด “ดูนี่สิ ฉันได้แต่หัวเราะล่ะ” เธอพูดกับกล้อง พลางลูบหัวของเธอ “อยู่ๆ ก็เป็นแบบนั้นเลย และจะซ่อนต่อไปก็ยากแล้ว ก็เลยคิดว่าจะแชร์เรื่องนี้ให้รับรู้ เพื่อที่ทุกคนจะได้ไม่ต้องถามอีก”
ในแคปชั่นของวิดีโอเดียวกัน เจดายังเขียนอีกว่า “แม่คงจะต้องโกนให้ติดหนังหัว เพื่อที่คนจะได้ไม่ต้องคิดว่าเธอไปผ่าตัดสมองมาหรืออะไรทำนองนั้น” ซึ่งเธอก็บอกว่า ตัวเองกับโรคผมร่วงนี้ก็คงจะได้เป็นเพื่อนกันต่อไปเรื่อยๆ พร้อมจบประโยคด้วยอีโมจิหน้ายิ้ม
เจดาพูดถึงโรคนี้เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2018 ในรายการ Red Table Talk ของเธอที่เผยแพร่ผ่านทาง Facebook Watch เธอเปิดใจว่า “แรกๆ มันก็น่ากลัวนะ วันนึงฉันอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ แล้วผมก็ติดมือมาเป็นกำ ฉันก็ได้แต่คิดว่า ‘โอ้พระเจ้า นี่ฉันจะหัวล้านแล้วเหรอ?’”
การเปิดเผยเรื่องที่เธอป่วยเป็นโรคผมร่วง ทำให้สำนักข่าว NBC News ยกย่องเธอว่าเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างกำลังใจให้กับผู้หญิงผิวดำที่ป่วยเป็นโรคเดียวกัน ซึ่งงานวิจัยหลายชิ้นก็ชี้ว่า ผู้หญิงผิวดำมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคในเป็นสัดส่วนที่สูงกว่ากลุ่มอื่นๆ
ยกตัวอย่างเช่น งานวิจัยที่ถูกนำเสนอที่สถาบันโรคผิวหนังสหรัฐฯ (American Academy of Dermatology) เมื่อปี 2016 ที่พบว่ามี 47.6% จากผู้หญิงผิวดำทั้งหมด 5,594 คน ที่ต้องเผชิญกับผมร่วง และส่วนใหญ่มักจะไม่ได้ไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาแต่อย่างใด
สำหรับเจดา เป็นที่รู้จักในวงกว้างจากการแสดงซิตคอมเรื่อง ‘A Different World’ และได้รับบทบาทในภาพยนตร์หลายๆ เรื่อง เช่น ‘The Nutty Professor’ (1996), ‘Bamboozled’ (2000), ‘Girls Trip’ (2017), และภาพยนตร์ ‘The Matrix’ หลายภาค ก่อนที่จะกลับมาแสดงในเรื่อง ‘The Matrix Resurrections’ เมื่อปี 2021
นอกจากนี้ เจดายังจัดรายการทอล์กโชว์ที่ชื่อ ‘Red Table Talk’ ผ่านทาง Facebook Watch ร่วมกับลูกสาว วิลโลว์ สมิธ และเอเดรียนน์ แบนฟีลด์–นอร์ริส แม่ของเจดา จนทำให้ได้รับรางวัล Daytime Emmy Award สาขาทอล์กโชว์เชิงข้อมูลยอดเยี่ยม และรางวัล NAACP Image Awards ของสมาคมแห่งชาติเพื่อความก้าวหน้าของคนผิวสีหลายรางวัล
เจดาพบกับวิลล์ สมิธ เมื่อปี 1994 ในกองถ่ายซิตคอมเรื่อง ‘The Fresh Prince of Bel-Air’ ก่อนที่จะแต่งงานกันเมื่อปี 1997 และมีลูกด้วยกันสองคน คือ เจเดน ลูกชายคนโต และวิลโลว์ ลูกสาว
กลับมาที่วิลล์ สมิธ หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ตบหน้ากลางเวที เขาก็ใช้โอกาสที่ตัวเองได้รับรางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง ‘King Richard’ เพื่อกล่าวขอโทษผู้จัด “ผมดูเหมือนพ่อที่บ้าคลั่ง อย่างที่เขาพูดกันเลย แต่ความรักก็ทำให้คุณทำสิ่งบ้าๆ ได้” วิลล์พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้มีการขอโทษคริส ร็อกแต่อย่างใด
หลังจากนั้นไม่นาน แอคเคาต์ทวิตเตอร์ทางการของรางวัลออสการ์ก็เผยแถลงการณ์ ระบุว่า “ดิ อะแคเดมี (The Academy) ไม่เห็นด้วยกับความรุนแรงทุกรูปแบบ”
อ้างอิงจาก
