เป็นภาพสะเทือนขวัญไปทั่วโลก เมื่อกองทัพของยูเครนสามารถยึดเมืองรอบๆ กรุงเคียฟคืนจากทหารรัสเซียได้ และพบว่ามีพลเรือนนอนเสียชีวิตจำนวนมาก ทั้งบนถนน และในหลุมที่ถูกขุดมาเพื่อฝังศพโดยเฉพาะ
The MATTER ขอสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และปฏิกิริยาจากนานาชาติในเรื่องนี้ มาให้อ่านกันสั้นๆ ดังต่อไปนี้
1. รัสเซียถอยร่นออกจากเมืองใกล้กรุงเคียฟ ยูเครนเผย พบศพในพื้นที่ 410 ศพ
เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2565 ยูเครนประกาศว่ายึดคืนพื้นที่ในเขตบูชา (Bucha) ใกล้เคียงกับกรุงเคียฟได้แล้ว หลังจากที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียประกาศเมื่อวันที่ 29 มี.ค. ว่ารัสเซียจะลดกิจกรรมทางการทหารในบริเวณรอบๆ กรุงเคียฟและเชอร์นิฮิฟ ส่งผลให้มีการต่อสู้กันในวันต่อมา เนื่องจากยูเครนส่งทหารเข้าไปกดดัน จนกระทั่งยึดคืนได้ในอีกวันต่อมา
ภายหลังจากที่ฝ่ายยูเครนเข้าไปในพื้นที่ ก็เริ่มปรากฏหลักฐานการสังหารพลเรือน ผ่านภาพถ่ายของสำนักข่าวต่างๆ เช่น สำนักข่าว AFP ท่ีเข้าไปในพื้นที่เมื่อวันเสาร์ที่ 2 เม.ย. – มีทั้งภาพพลเรือนเสียชีวิตหน้าคว่ำบนถนน มีบางส่วนถูกมัดมือไว้ด้วยผ้าขาว รวมถึงมีหลุมที่มีศพในถุงดำถูกโยนรวมกันด้วย
ทางด้านอัยการสูงสุดของยูเครน ซึ่งเข้าไปตรวจสอบกรณีอาชญากรรมสงคราม ก็เปิดเผยว่า มีการพบศพในเมืองรอบๆ กรุงเคียฟเป็นจำนวน 410 ศพ ขณะที่นายกเทศมนตรีเมืองบูชาระบุว่ามีพลเรือนเสียชีวิตไม่น้อยกว่า 300 คน
2. ประธานาธิบดีเซเลนสกี เรียกการกระทำของรัสเซียว่า ‘การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์’
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 เม.ย. โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดีของยูเครน ให้สัมภาษณ์กับรายการ ‘Face the Nation’ ทางช่อง CBS ถึงกรณีที่เกิดขึ้น
เซเลนสกีระบุชัดว่า “นี่คือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” และเป็นการ “กำจัดคนทั้งชาติ” ที่มีอยู่กว่า 100 เชื้อชาติที่อาศัยอยู่ในยูเครน เซเลนสกีอ้างเหตุผลของการถูกโจมตีว่า เป็นเพราะ “เราเป็นพลเมืองของยูเครน และเราไม่ต้องการอยู่ภายใต้นโยบายของสหพันธรัฐรัสเซีย”
“นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในยุโรปศตวรรษที่ 21 ฉะนั้น นี่คือการทรมานคนทั้งชาติ” เซเลนสกีย้ำ
3. นานาชาติประณามเหตุการณ์สังหารหมู่ – EU เล็งคว่ำบาตรเพิ่มเติมเพื่อตอบโต้ในเรื่องนี้
ภาพการสังหารพลเรือนที่เพิ่งถูกเปิดเผยขึ้นมา กลายเป็นภาพที่สะเทือนขวัญคนทั่วโลก ซึ่งในขณะนี้ ก็มีผู้นำจากหลายประเทศที่ออกมาประณามการกระทำของรัสเซีย เช่น สหรัฐฯ อังกฤษ ญี่ปุ่น อิสราเอล จอร์เจีย และอีกหลายๆ ประเทศในยุโรป
ด้านอันโตนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ แถลงเมื่อวันที่ 3 เม.ย. ว่า รู้สึก “ช็อคเป็นอย่างยิ่ง” กับภาพการสังหารพลเรือนในเมืองบูชา พร้อมเรียกร้องให้มีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนเพื่อตรวจสอบกรณีที่เกิดขึ้น
ในส่วนของสหภาพยุโรป (EU) ชาลส์ มิเชล ประธานของคณะมนตรียุโรป (European Council) ก็เปิดเผยว่า กำลังเตรียมออกมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมเพื่อตอบโต้กับการกระทำรัสเซียในเมืองบูชาของยูเครน
โดยที่มาตรการที่ประเทศสมาชิกเสนอมาเพิ่มเติม ได้แก่ การห้าเรือรัสเซียใช้ท่าเรือใน EU และการออกข้อจำกัดและการระงับการส่งออกพลังงาน เช่น ก๊าซ น้ำมัน และถ่านหิน
4. รัสเซียปฏิเสธการสังหารหมู่ อ้างว่าจัดฉาก พร้อมขอให้คณะมนตรีความมั่นคง UN จัดประชุม เพื่ออภิปรายเกี่ยวกับ ‘การยั่วยุ’ จากยูเครน
ทางด้านรัสเซีย ก็ปฏิเสธว่าไม่ได้สังหารพลเรือนในเมืองบูชาตามที่ยูเครนกล่าวหา โดยอ้างว่า รูปถ่ายและฟุตเทจที่ปรากฏว่ามีภาพของศพพลเรือนนั้น เป็นการ “จัดฉากโดยระบอบในกรุงเคียฟที่ทำเพื่อสื่อตะวันตก” อีกทั้งยังนับว่าเป็น “การยั่วยุอีกครั้งหนึ่งจากยูเครน”
ด้วยเหตุนี้ รัสเซียจึงเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) จัดประชุมกันเพื่ออภิปรายกรณีของ “การยั่วยุโดยพวกหัวรุนแรงชาวยูเครน”
อ้างอิงจาก
https://www.nytimes.com/live/2022/04/03/world/ukraine-russia-war/ukraine-russia-war
https://www.reuters.com/world/europe/russia-denies-killing-civilians-ukraines-bucha-2022-04-03/
https://news.un.org/en/story/2022/04/1115442
https://www.ft.com/content/84b82726-d4d0-446c-a409-f61037686315