พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. เคยให้สัมภาษณ์ไว้ตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค.2564 ว่าไม่สามารถเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม กับวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อปี 2562 ให้กับสื่อมวลชน (ผู้สื่อข่าว The MATTER) ตามที่ร้องขอไว้ตั้งแต่ต้นปี 2564 ได้ เพราะกฎหมายไม่ได้ให้อำนาจไว้
อ่านข่าวที่สารพัดสื่อลงคำพูดของประธานองค์กรอิสระที่มีหน้าที่หลักคือต่อต้านคอร์รัปชั่นไว้เป็นหลักฐาน
- https://www.thairath.co.th/news/politic/2174776
- https://www.prachachat.net/politics/news-745008
- https://workpointtoday.com/politics-74/
- https://voicetv.co.th/read/l4poBoxiz
แต่กว่าที่ ป.ป.ช.จะส่งหนังสือตอบกลับมาอย่างเป็นทางการว่า จะไม่เปิดเผยข้อมูลบัญชีของรัฐมนตรีทั้ง 2 คน เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องสามารถดำเนินการโต้แย้งต่อไปได้ ..เชื่อหรือไม่ว่าต้องรอถึง 8 เดือนเต็มๆ ! เพราะเราเพิ่งได้รับหนังสือจาก ป.ป.ช.ในวันนี้ (28 เม.ย.) นี่เอง
โดย ป.ป.ช.ส่งหนังสือด่วน ที่ ปช. 0015/0241 ลงนามโดยจันทิรา จิตรชื่น ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช. ปฏิบัติราชการแทนเลขาฯ ป.ป.ช. มาให้เรา แจ้ง ‘ปฏิเสธ’ การเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินของ พล.อ.ประยุทธ์และวิษณุให้กับผู้ร้องขอ ทั้งที่เคยมีคำสั่งของคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร (กวฉ.) สาขาสังคมฯ ที่ สค.266/2564 สั่งให้ต้องเปิดเผย โดยอ้างว่า ไม่มีกฎหมายบัญญัติให้ ป.ป.ช.มีหน้าที่และอำนาจในการเปิดเผยข้อมูลดังกหล่าว อีกทั้งบัญชีทรัพย์สินของทั้งสองคนถือเป็น ‘ข้อมูลส่วนบุคคล’ ที่รัฐธรรมนูญบัญญัติรับรองไว้
นับแต่เริ่มมี ป.ป.ช.เป็นต้นมา ในปี 2542 กฎหมายจะกำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญอย่างนายกฯ หรือรัฐมนตรี ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินตอนที่เข้ารับและพ้นจากตำแหน่ง และ ป.ป.ช.ต้องเปิดเผยข้อมูลนี้ให้สาธารณชนช่วยกันตรวจสอบ เพิ่งมีการเพิ่ม ‘ข้อยกเว้น’ ในกฎหมาย ป.ป.ช. ฉบับปี 2561 ที่ออกมาโดยรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ซึ่งผู้เขียนอ้างว่าเน้นหนักเรื่องปราบโกง ที่ระบุว่า หากผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญบางตำแหน่งกลับมารับตำแหน่งเดิมภายใน 30 วัน ..ไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินใหม่
วิษณุกล่าวตอบโต้ฝ่ายค้านไว้ตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจต้นปี 2564 ว่า ตนกับ พล.อ.ประยุทธ์ ยื่นบัญชีทรัพย์สินเป็นหลักฐานไว้แล้ว ใครอยากรู้ข้อมูลก็ไปของ ป.ป.ช.ดู ผู้สื่อข่าว The MATTER ก็เลยไปลองขอดู และผลที่ได้รับก็อย่างที่เห็น
จะทำให้สังคมโปร่งใสมากขึ้น จะยกระดับการต่อต้านทุจริต จะเพิ่มคะแนนในดัชนีภาพลักษณ์ความโปร่งใส (CPI- Corruption Perception Index) ซึ่งไทยไม่เคยได้เกินครึ่งเลยแม้แต่ครั้งเดียว ..วิสัยทัศน์ต่างๆ ดูสูงลิบลิ่ว
เอาแค่ทำเรื่องง่ายๆ อย่างส่งกระดาษคำตอบ หนา 1 แผ่นให้รวดเร็วกว่านี้ก่อน เพราะ 8 เดือนนี่มันสองในสามของปีเลยนะ ถ้าเป็นข้าราชการปีสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการ ก็แทบไม่ได้ทำอะไรเลย
ขอส่งกำลังใจให้ ป.ป.ช. ปรับปรุงการทำงานของตัวเองให้ดีขึ้น เพราะภารกิจปราบโกง ต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชนรวมถึงสื่อมวลชน เพราะความร่วมมือนั้นจะเกิดได้ ป.ป.ช.ต้องทำงานอย่างโปร่งใส ตรงไปตรงมา และมีประสิทธิภาพ
ให้กำลังใจนะ
#Brief #TheMATTER