วันนี้ (28 เม.ย. 2565) ศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำพิพากษาจำคุก ‘สมบัติ ทองย้อย’ อดีตการ์ด นปช. ในคดี ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เป็นเวลา 6 ปี ไม่รอลงอาญา จากกรณีโพสต์ข้อความ ‘กล้ามาก เก่งมาก ขอบใจนะ’ ประกอบกับภาพบันทึกหน้าจอจากข่าวมติชนที่ระบุว่า บัณฑิตมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไม่เข้ารับปริญญาทั้งคณะ
ศาลอธิบายว่า การโพสต์ข้อความดังกล่าว สมบัติมีเจตนาชื่นชมบัณฑิตที่ไม่เข้ารับปริญญา ซึ่งในสังคมไทย การเข้ารับปริญญาถือว่าเป็นเกียรติและสิริมงคล การกระทำของจำเลยจึงถือเป็นการล้อเลียนเสียดสี เข้าข่ายดูหมิ่นพระมหากษัตริย์
ทั้งนี้ ‘กล้ามาก เก่งมาก ขอบใจ’ เป็นพระราชดำรัสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตรัสกับ ฐิติวัฒน์ ธนการุณย์ เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 2563 เพื่อชื่นชมกรณีที่ฐิติวัฒน์ยืนถือพระบรมฉายาลักษณ์ ในหลวง ร.9 และสมเด็จพระราชินีใน ร.9
การที่สมบัติอ้างว่าไม่ทราบว่าข้อความดังกล่าวเป็นพระราชดำรัสของในหลวง ร.10 นั้นจึงฟังไม่ขึ้น เพราะจากการเบิกความของทั้งพยานโจทก์และพยานจำเลย ระบุว่า ข่าวที่ในหลวง ร.10 ตรัสข้อความดังกล่าว ได้มีการรายงานแล้วอย่างแพร่หลาย
นอกจากนี้ ยังมีอีก 2 ข้อความที่สมบัติโพสต์ ซึ่งถูกนำมาฟ้องรวมเป็นอีกกรรม ได้แก่ ข้อความว่า “เขาให้ลดงบประมาณที่เอาไปใช้จ่าย ไม่ใช่ลดตัวลงมาใกล้ชิดประชาชน …” และข้อความว่า “มีแจกลายเซ็นต์ด้วย เซเลปชัดๆ” ซึ่งทั้ง 2 ข้อความถูกโพสต์เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2563
ข้อความแรก ศาลระบุว่า แม้สมบัติจะอ้างว่าตั้งใจสื่อถึงนายกรัฐมนตรี แต่คำว่า ‘ลดตัว’ หมายถึง ถ่อมตัว ไว้ตัว ตามพจนานุกรม ไม่ได้ใช้กับนายกฯ และไม่มีหลักฐานด้วยว่า นายกฯ ได้ลงพื้นที่พบปะประชาชนในช่วงดังกล่าว ส่วนข้อความเรื่องการแจกลายเซ็น สมบัติระบุว่าไม่ได้โพสต์ถึงใคร และจำไม่ได้แล้วว่ากล่าวถึงใคร ซึ่งศาลก็ชี้ว่า เป็นการกล่าวอ้างลอยๆ ฟังไม่ขึ้น
ศาลจึงมีคำพิพากษาว่า สมบัติมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14(3) จำคุกกระทงละ 3 ปี รวม 2 กระทง เป็นจำคุก 6 ปี
ภายหลัง ศาลได้มีคำสั่งให้ศาลอุทธรณ์เป็นผู้สั่งว่าจะให้ปล่อยตัวชั่วคราวสมบัติหรือไม่ โดยให้ควบคุมตัวในเรือนจำไปก่อน ด้านทนายได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวในชั้นอุทธรณ์ วางหลักทรัพย์เพิ่มเป็นเงิน 300,000 บาท
อ้างอิงจาก
https://www.facebook.com/iLawClub/posts/10166532490260551
https://twitter.com/TLHR2014/status/1519531999949893632
https://tlhr2014.com/archives/42934
