ในขณะที่หลายๆ ประเทศเริ่มพูดคุยกันว่าจะถอดหน้ากากอนามัยดีไหม เปิดพรหมแดนรับนักท่องเที่ยวได้เมื่อไหร่ หรือควรมีมาตรการผ่อนคลายต่อ COVID-19 อย่างไรบ้าง ‘ตานตง’ เมืองหนึ่งในประเทศจีน เพิ่งออกคำสั่งให้ประชาชนปิดหน้าต่างเพื่อกันไวรัส COVID-19 ที่อาจลอยมาตามลม
ตานตง เป็นเมืองในมณฑลเหลียวหนิง ที่ตั้งอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน และมีประชากรประมาณ 2.19 ล้านคน ความพิเศษของเมืองนี้คือมีที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับเกาหลีเหนือ โดยมีแม่น้ำยาลู่เป็นพรหมแดนกั้นระหว่าง 2 ประเทศ
ด้วยความที่ห่างกันแค่เพียงแม่น้ำกัน และเกาหลีเหนือเพิ่งเผชิญกับการระบาดของโรค COVID-19 อย่างรุนแรง ประกอบกับยอดติดเชื้อในเมืองตานตงที่เพิ่มสูงในแต่ละวัน ทำให้ภาครัฐประกาศล็อคดาวน์ตั้งแต่ปลายเดือน เม.ย. และพยายามออกมาตรการควบคุมโรคที่รัดกุมมากขึ้น
ประเด็นคือ เจ้าหน้าที่ไม่สามารถหาที่มาของการระบาดได้ และสงสัยว่าเชื้ออาจแพร่มาทางลมที่พัดมาจากเกาหลีเหนือ เจ้าหน้าที่จึงขอความร่วมมือให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำยาลู่ (หรือแม่น้ำที่กั้นระหว่าง 2 ประเทศ) ปิดหน้าต่างกันลม และขอให้พวกเขาตรวจหาเชื้อบ่อยมากขึ้น
การกระทำนี้ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ และเบน โคว์ลิง (Ben Cowling) หัวหน้าแผนกระบาดวิทยาจากมหาวิทยาลัยฮ่องกง ระบุว่า การแพร่ระบาดของเชื้อในะระยะทางที่ไกลมากๆ นั้นแทบเป็นไปไม่ได้ เชื้อไม่สามารถลอยตามลมได้ และไวรัสเองก็ไม่สามารถมีชีวิตรอดได้ภายใต้แสงแดดหรืออากาศโปร่ง
ซึ่งทุกคนในจีนก็ไม่ได้เห็นด้วย ชาวเน็ตจำนวนหนึ่งออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านโซเชียลมีเดียในเชิงต่อต้านว่าไวรัสไม่สามารถแพร่ทางอากาศได้ไกลขนาดนั้น
อ้างอิงจาก
https://www.vice.com/en/article/xgyq44/north-korea-dandong-close-window-china-covid