สิงคโปร์พบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงครั้งแรกเมื่อช่วงกลางเดือนที่แล้ว และนับเป็นครั้งแรกที่มีผู้ติดเชื้อในภูมิภาคอาเซียนอย่างเป็นทางการ และวานนี้ (6 ก.ค. 65) กระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปรเพิ่งรายงานว่า พบผู้ติดเชื้อโรคฝีดาษลิงที่มาจากการติดเชื้อภายในประเทศแล้ว ซึ่งนับเป็นรายแรก
ผู้ป่วยรายนี้ เป็นชาวมาเลเซียวัย 45 ปีที่อาศัยอยู่ในสิงคโปร์ เขาตรวจพบเชื้อฝีดาษลิงเมื่อวานนี้ และกำลังเข้ารับการรักษาอยู่ที่ศูนย์ควบคุมโรคติดต่อแห่งชาติ (National Centre for Infectious Diseases) โดยเขาไม่มีความเชื่อมโยงใดกับผู้ติดเชื้อที่เพิ่งพบก่อนหน้า ซึ่งเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน และเดินทางเข้าออกสิงคโปร์อยู่หลายครั้ง
ตอนนี้ ผู้ติดเชื้อรายล่าสุดยังมีอาการคงที่ โดยก่อนหน้านี้เขาเริ่มมีแผลคันที่ผิวหน้าท้องเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 65 ก่อนจะเริ่มมีอาการเมื่อยล้า ต่อมน้ำเหลืองบวม ไข้ และเจ็บคอตามลำดับ จนวันที่ 4 ก.ค. 65 เขาจึงตัดสินใจไปพบแพทย์ ก่อนจะพบว่าติดเชื้อเมื่อวานนี้ และเข้ารับการรักษาและกักตัวแยกจากผู้อื่น
อย่างไรก็ดี กระทรวงสาธารณสุขรายงานว่า มีผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยรายนี้ 3 ราย โดยผู้สัมผัสจะถูกกักตัว 21 วัน นับจากครั้งสุดท้ายที่มีการสัมผัสเกิดขึ้น
ฝีดาษลิงไม่ใช่โรคอุบัติใหม่ และมีระยะฟักเชื้อประมาณ 7-14 วัน สำหรับผู้ที่ติดเชื้อ อาจมีอาการไข้ ปวดศรีศะ ปวดกล้ามเนื้อ ต่อมน้ำเหลืองโต หนาวสั่น อ่อนเพลีย และมักมีผื่นตามแขนขา ใบหน้า ลำตัว ที่มักจะกลายเป็นตุ่มหนองและสะเก็ดในท้ายที่สุด
กระทรวงสาธารณะสุขของสิงคโปร์ ระบุว่า ระดับความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในพื้นที่สาธารณะยังคงต่ำอยู่ เพราะการแพร่เชื้อจะต้องมีการติดต่อทางกายภาพที่ใกล้ชิด–สัมผัสกันเป็นระยะเวลานาน ทั้งยังย้ำด้วยว่า จะติดตามสถานการณ์ฝีดาษลิงอย่างใกล้ชิด และเตรียมปรับมาตรการเพื่อเตรียมความพร้อมและรับมือต่อไปตามความจำเป็น
ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานว่า ในสถานการณ์การระบาดปัจจุบัน พบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงที่ได้รับการรายงานแล้วมากกว่า 6,000 ราย จาก 58 ประเทศ
ใครอยากรู้ว่าโรคฝีดาษลิงคืออะไร ป่วยแล้วอันตรายแค่ไหน ทำความเข้าใจได้ที่: https://thematter.co/quick-bite/what-is-monkeypox/176006
อ้างอิงจาก