วันนี้ (18 ก.ค. 2565) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานถึงคำพิพากษาของศาล จ.สมุทรปราการ มีคำสั่งให้ลงโทษจำคุก 4 ปี ‘มีชัย’ (สงวนนามสกุล) เกษตรกรวัย 51 ปี จาก จ.จันทบุรี ในคดี ม.112 และ พ.ร.บ.คอมฯ ม.14(3) แต่ให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษจำคุกเหลือ 2 ปี 8 เดือน
ทั้งนี้ มีชัยถูกฟ้องจากกรณีโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กรวม 2 ข้อความ ช่วงเดือน พ.ค. 2563 ในลักษณะวิพากษ์วิจารณ์ถึงการใช้ภาษีของประชาชนโดยสถาบันพระมหากษัตริย์ และตั้งคำถามถึงการใช้ภาษีของพระมหากษัตริย์ ซึ่งถูกนำมาฟ้องรวมเป็น 2 กรรม
ในระหว่างการสืบพยาน เมื่อวันที่ 7-8 พ.ค. 2565 อัยการโจทก์นำสืบว่า ทั้ง 2 ข้อความ สื่อทำนองว่ากษัตริย์เอารัดเอาเปรียบประชาชน มีธุรกิจผูกขาดส่วนตัว รวมถึงว่านำภาษีประชาชนไปใช้ส่วนตัว ไม่ได้มอบอะไรกลับคือให้ประชาชน โดยมีเจตนาที่จะทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจผิด เป็นการดูหมิ่นอาฆาตมาดร้าย ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียเกลียดชัง เป็นการกล่าวเท็จใส่ร้ายสถาบันกษัตริย์
ด้านมีชัย ยอมรับว่าเป็นผู้โพสต์ข้อความทั้ง 2 ข้อความจริง แต่มีข้อต่อสู้ คือ ข้อความดังกล่าวเป็นเพียงการตั้งคำถาม อยากให้สังคมร่วมกันคิดว่าจะสามารถปรับลดงบประมาณสถาบันกษัตริย์เพื่อเป็นประโยชน์กับสังคมโดยรวมได้อย่างไร เป็นเพียงการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริต ไม่ได้มีอคติกับสถาบันกษัตริย์แต่อย่างใด
คดีนี้มีผู้เข้าแจ้งความ คือ ศิวพันธุ์ มานิตย์กุล ประชาชนที่พักอาศัยอยู่ใน จ.สมุทรปราการ หลังเห็นข้อความในเฟซบุ๊ก ศูนย์ทนายฯ จึงตั้งข้อสังเกตว่า คดีดังกล่าวเป็นอีกกรณีที่สะท้อนปัญหาของ ม.112 ที่เปิดให้ใครก็ตามสามารถแจ้งความกล่าวโทษผู้อื่นก็ได้ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เสียหาย เปิดช่องให้กลุ่มคนที่เห็นต่างใช้กฎหมายสร้างภาระทางคดีให้อีกฝ่าย
อ้างอิงจาก
https://twitter.com/TLHR2014/status/1548899800476569600
https://tlhr2014.com/archives/46064
https://database.tlhr2014.com/public/case/1757