เมื่อวานนี้ (19 ก.ค. 2565) หลังจากที่ ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้ตอบข้ออภิปราย ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจวันแรกของสภาฯ ศรัณย์ ทิมสุวรรณ ส.ส.เลย พรรคเพื่อไทย ก็ได้ซักถามต่อถึงประเด็นการใช้งานสปายแวร์ ‘เพกาซัส’ ในการสอดแนมประชาชนของตัวเอง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาทต่อครั้ง
ในเรื่องนี้ ชัยวุฒิตอบคำถามว่า “เรื่องสปายแวร์ที่เข้าไปดักฟัง เข้าไปสิงอยู่ในตัวเครื่องมือถือ และจะดูหน้าจอการพูด การคุย การส่งข้อความทั้งหมด อันนี้ผมรู้ว่ามีจริง ระบบนี้มีจริง เราเคยศึกษาอยู่ แต่ทางกระทรวงดิจิทัลฯ ไม่ได้เป็นคนทำเรื่องนี้ เพราะเราไม่มีอำนาจ
“เท่าที่ผมทราบ มันจะเป็นงานด้านความมั่นคงหรือด้านยาเสพติด ถ้าต้องไปจับคนร้ายยาเสพติด ท่านก็ต้องดักฟังว่าเขาจะส่งยาที่ไหนอะไรอย่างนี้นะครับ ผมเข้าใจว่ามีการใช้ลักษณะแบบนี้ แต่มันลิมิตมาก มันต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับคดีพิเศษ คดีสำคัญ ที่ต้องดักฟังพวกค้ายาเสพติด ผมก็ได้ยินว่ามี”
อย่างไรก็ดี ชัยวุฒิย้ำอีกครั้งว่า หน่วยงานของตนไม่ได้ดูแลเรื่องนี้ เพราะในอำนาจของรัฐบาล ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งเป็นอำนาจของกระทรวงดีอีเอส หรือในการบริหารเรื่องความมั่นคงทางไซเบอร์ (cyber security) กระทรวงฯ ก็ไม่ได้มีอำนาจทำเรื่องนี้ ขณะเดียวกัน ก็ทราบว่ายังมีอำนาจส่วนอื่นๆ ที่ทำเช่นนั้นได้
สำหรับประเด็นนี้ มีการรายงานโดย iLaw, DigitalReach และ Citizen Lab ซึ่งเปิดเผยเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2565 พบว่า มีโทรศัพท์ของบุคคลอย่างน้อย 30 คนที่ถูกเจาะในช่วงปี 2563-2564 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยอยู่หลายครั้ง โดยคนส่วนใหญ่ที่ถูกเจาะมีบทบาทในการชุมนุม
อ้างอิงจาก
https://www.youtube.com/watch?v=tI4J7S39Y_s
https://thematter.co/brief/180679/180679