“…ผมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวผู้สูญเสียและผู้บาดเจ็บ โดยได้สั่งการให้ ผบ.ตร. ลงพื้นที่เพื่อเร่งดำเนินการตามกฎหมายในทันที…”
นับเป็นข้อความแรกของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่สื่อสารถึงประชาชน ผ่านเพจเฟสบุ๊กส่วนตัว ที่ไม่ได้เปิดช่องทางให้ประชาชนแสดงความเห็นสาธารณะ หลังเกิดเหตุสะเทือนขวัญคนทั้งประเทศ กับคดีกราดยิงศูนย์เด็กเล็กที่ จ. หนองบัวลำภู ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 36 ราย
และที่น่าเศร้าใจยิ่งกว่า คือการที่ผู้เสียจำนวนมากเป็นเพียงเด็กเล็ก ที่กำลังนอนพักผ่อนในเวลานั้นของทุกวัน
ในช่วงต้นผู้คนต่างมุ่งสนใจไปยังเหตุการณ์ขณะนั้น ว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ อะไรเป็นแรงจูงใจให้กระทำ และเมื่อความตระหนกคลี่คลายแล้ว การรับมือของเจ้าหน้าจึงเป็นสิ่งที่ประชาชนมองหาในลำดับถัดไป ‘ผู้นำ’ จึงเป็นบุคคลแรกที่แสงไฟส่องถึง
The MATTER พูดคุยกับ อัจฉรา ปัณฑรานุวงศ์ อาจารย์ประจำคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน ธรรมศาสตร์ ถึงความจำเป็นของ ‘ภาวะผู้นำ’ ในการรับมือวิกฤตของประชาชน
#วิเคราะห์ท่าทีผู้นำไทย
“มันไม่ควรเกิดอย่างยิ่งเลย ผมเสียใจอย่างสุดซึ้งกับคนที่บาดเจ็บและสูญเสีย” เป็นเสียงสัมภาษณ์จาก พล.อ.ประยุทธ์ ที่ถ่ายทอดผ่านเพจไทยคู่ฟ้า ระหว่างการลงพื้นที่ดูสถานการณ์น้ำท่วมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ในฐานะอาจารย์ด้านสื่อสารการเมืองแล้ว อัจฉราให้คะแนนในทางบวกกับปฏิกิริยาการแสดงความเสียใจดังกล่าว ที่ใช้เวลาไม่นานในการส่งสารแรก ด้วยน้ำเสียงชัดเจน และท่าทีจริงใจ แต่ไม่เห็นด้วยกับข้อความถัดมา
.
“แต่คำที่พูดต่อว่า ปัญหาอยู่ที่คนขาดความยั้งคิด ความอดทน โทษไปที่สังคม ถือเป็นลักษณะการโยนปัญหาออกนอกตัว โทษภายนอก มีถึงสื่อว่าทำให้เกิดความรุนแรง ประเด็นมันเลยเกินไป”
อัจฉรา มองว่า ผู้นำในภาวะวิกฤต ควรมุ่งเป้าสื่อสารไปยังแนวทางรับมือระยะสั้นก่อน อย่างการดูแลผู้ได้รับผลกระทบ ก่อนจะต่อยอดไปยังมาตรการระยะยาว “ที่ท่านพูดไป ยังไม่มีประเด็น ทำให้ความน่าเชื่อถือในฐานะผู้นำไม่ชัดเจน”
‘นี่แหละคือสิ่งที่ผมเคยเตือนอยู่เสมอว่า สังคมต้องช่วยกันดูแลนะ เพราะบางทีจิตใจเขา ไม่รู้เขามีแรงจูงใจในใจ ปัญหาเขาบางทีไม่ได้พูดจากับใคร’ เป็นข้อความตามคำให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์
เช่นเดียวกับ ท่าทีและคำพูดของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในบทบาทรองนายกรัฐมนตรี ก็จำเป็นต้องระมัดระวังไม่ต่างกันตามความเห็นของอัจฉรา
สืบเนื่องหลังเกิดเหตุไม่นาน ผู้สื่อข่าวได้ถามถึงปัญหายาเสพติดว่าเป็นหนึ่งปัจจัยการก่อเหตุสลดครั้งนี้ เป็นที่มาของคำตอบว่า “ก็ทำยังไงล่ะ คนมันติดยา” รวมถึง “เราให้การช่วยเหลือแล้ว และให้ประชาชนโทร 1669 191 1597 มีตั้งเยอะคุณจำได้ไหม”
“ยังมีภาพลักษณ์ของผู้ใหญ่ ที่ใช้ความเห็นตนเองเป็นจุดศูนย์กลาง คนกำลังคาดหวังต่อผู้นำให้แก้ปัญหาให้เรา ในแง่ของการแสดงวิสัยทัศน์ การบอกว่าไม่รู้จะได้ยังไง เป็นสิ่งที่ผิดพลาดอย่างมากในฐานะผู้นำระดับสูง” อัจฉรา ระบุ
“เชื่อว่าทุกคนมีความจริงใจ แต่การเลือกใช้คำตอบโต้เมื่อถูกถามมา บางครั้งพอไม่ทันคิดทำให้เกิดความหมายลบ” ซึ่งสะท้อนว่าการเลือกใช้คำนั้นสำคัญ
อย่างกรณีที่เกิดขึ้น อัจฉรามองว่า พล.อ.ประวิตร สามารถสื่อสารด้วยความหมายเดิม ด้วยถ้อยคำอย่าง “ปัญหานี้ซับซ้อน แต่เราตั้งใจแก้ไข ไม่ปล่อยให้ผ่าน” เป็นต้น สิ่งเหล่านี้สามารถเตรียมความพร้อมได้ตั้งแต่ต้น
#เสียงจาก’เบอร์หนึ่ง’ สำคัญสุด
สำหรับเหตุความรุนแรง ที่มีผู้ได้รับผลกระทบวงกว้างเช่นนี้ อาจารย์ด้านสื่อสารการเมืองรายนี้ ชี้ว่า ‘ผู้นำ’ ซึ่งในที่นี้หมายถึงนายกรัฐมนตรี ควรจะเป็นผู้ให้ความชัดเจนเป็นระยะๆ แม้จะมีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบแต่ละฝ่ายก็ตาม
“ผู้นำยังไงก็สำคัญที่สุด เขามีอำนาจในการกำกับสั่งการ ไม่ว่าจะเกิดวิกฤตอะไร เราย่อมฟังคน ‘เบอร์หนึ่ง’ อย่างถ้ามององค์กรเอกชน มันคือการบอกว่าองค์กรนี้ให้ความสำคัญกับสิ่งนี้อย่างจริงใจ”
เปรียบเทียบกรณีศึกษาในต่างประเทศ ไม่ใช่เพียงแค่เหตุกราดยิงเท่านั้น ที่ผู้นำสูงสุด หรือสถานทูตในนามของรัฐ จำเป็นต้องออกแถลงการณ์ เพื่อให้ผู้คนรับทราบโดยพร้อมกัน
และ ‘การลงพื้นที่’ จะเป็นบททดสอบขั้นต่อไป ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์เอง มีกำหนดการเดินทางไปยังที่เกิดเหตุในวันนี้เช่นกัน “ภาษากายต้องแสดงออกอย่างจริงใจ ต้องระมัดระวัง คนเราเวลาคุยอาจเผลอยิ้ม หัวเราะ ซึ่งไม่ควร เศร้าอย่างจริงใจ ดูเหมือนยากแต่ต้องทำ เพื่อให้คนเชื่่อมั่นและสร้างกำลังใจ”
ทั้งนี้ หากมีคำถามที่ให้คำตอบได้ยาก อัจฉรา ระบุว่า ให้สื่อสารอย่างตรงไปตรงมาว่าสิ่งใดทำได้ สิ่งใดยังทำไม่ได้ “ถ้าตอบไปทั้งที่รายละเอียดไม่พอ แล้วตอบผิดๆ มันไม่ดี”
#บทเรียนผู้นำนิวซีแลนด์
คงไม่อาจปฏิเสธว่า ทุกครั้งที่เกิดโศกนาฏกรรมไม่ว่าจะในมุมใดของโลก จะตามมาพร้อมบทพิสูจน์ตัวของผู้นำประเทศไม่ทางใดก็ทางหนึ่งเสมอ อย่างที่เคยเกิดขึ้นกับ ‘จาซินดา อาร์เดิร์น’ นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ที่รับมือเหตุการณ์ในมัสยิดแห่งหนึ่งในเมืองไครสต์เชิร์ชได้อย่างดี จนได้รับคำนิยมจากผู้คนทั่วโลก
โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ เริ่มชื่นชมตั้งเธอตั้งแต่ การกล่าวแถลงการณ์ครั้งแรก ที่ระบุว่า “เห็นได้ชัดแล้วว่า นี่คือเหตุก่อการร้าย” ด้วยมองว่านั่นเป็นการย้ำเตือนกับคนในประเทศ และทั้งโลกว่านี่เป็นเรื่องที่สังคมต้องตระหนัก ด้วยท่าทางและน้ำเสียงที่หนักแน่น
ก่อนที่่ในเวลาต่อมา เมื่อลงพื้นที่เกิดเหตุ อาร์เดิร์น แสดงท่าทางเข้าอกเข้าใจ และยังให้คำมั่นในการเร่งรัดการเปลี่ยนแปลงทางกฎหมายควบคุมอาวุธที่ไม่เข้มงวด
อัจฉรา ยังชี้ไปยัง ‘ความเข้มแข็ง’ ที่เป็นท่าทีการแสดงออกสำคัญของผู้นำหญิงรายนี้ “การโชว์ให้เห็นความมั่นใจว่าแก้ปัญหาได้ บอกว่าจะไม่อดทนกับการก่อการร้าย แสดงความเด็ดขาด ให้ประชาชนเห็นว่าพึ่งพาและคาดหวังได้”
“อย่าปัดความรับผิดชอบ อย่าโทษคนอื่น ยังไงความรับผิดชอบเป็นของผู้นำสูงสุดอยู่แล้ว” อัจฉรา ระบุทิ้งท้าย
ไม่ว่า ‘คำพูด ท่าทาง นำเสียง’ ที่ผู้นำใช้จะผ่านการ ‘คิดมาแล้ว’ หรือไม่ แต่ทั้งหมดคือหัวใจหลักของการสื่อสารในภาวะวิกฤต เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และเรียกขวัญกำลังใจให้กับคนในประเทศ
#Brief #TheMATTER #ภาวะผู้นำ