แน่นอนว่าเกมไม่ใช่อาวุธร้าย เกมคือกิจกรรมเบาสมอง (?) ที่มีข้อดีและข้อเสียเหมือนกับกิจกรรมอื่นๆ ดังนั้น ผู้วิจัยจึงย้ำชัดเจนว่า ไม่ใช่ทุกเกมที่ย่ำแย่ หรือจะทำให้คนกลายเป็นพวกสุดโต่งไปเสียทั้งหมด
อย่างไรก็ดี ผลการวิจัยระบุว่า บุคคลที่นิยามตัวเองว่าเป็น ‘เกมเมอร์’ มีแนวโน้มที่จะมีนิสัยสุดโต่ง เช่น เหยียดเชื้อชาติ เหยียดเพศ และมักจะปกป้องชุมชนเกมของตัวเองอย่างสุดหัวใจ
เชื่อว่าคอเกมล้วนเคยเจอความ toxic และความสุดโต่งระหว่างแข่งขัน ซึ่งงานวิจัยชี้ให้เห็นว่า สิ่งที่จะช่วยให้เข้าใจกลไกความ toxic นี้ คือการสำรวจว่าอัตลักษณ์ ‘เกมเมอร์’ กลายเป็นตัวตนหลักของชีวิตบุคคลนั้นๆ ได้อย่างไร
ราเชล โคเวิร์ต (Rachel Kowert) นักเล่นเกม ผู้ร่วมเขียนงานวิจัย และหัวหน้าคณะวิจัยจาก ‘Take This’ องค์กร ไม่แสวงกำไรที่ทำงานด้านสุขภาพจิตและอุตสาหกรรมเกม ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว VICE ว่า “เมื่ออัตลักษณ์เกมเมอร์ คือแก่นหลักของตัวตนที่คุณเป็น มันอาจสะท้อนถึงวัฒนธรรมการกีดกัน อย่างเช่น พฤติกรรมเหยียดเชื้อชาติ เหยียดเพศ หรือเหยียดผู้หญิง มากกว่าวัฒนธรรมการอยู่ร่วมกันกับคนอื่น”
งานวิจัยนี้ถูกศึกษาโดยคณาจารย์ด้านจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยเท็กซัส และถูกตีพิมพ์ผ่านวารสาร ‘Frontiers in Communication’ พวกเขาสำรวจนักเล่นเกมชาวอเมริกันมากกว่า 300 คน และเปิดโอกาสให้คนเหล่านี้ระบุว่าตัวเองเป็นเกมเมอร์หรือไม่ จากนั้นจึงวิเคราะห์ฐานแนวคิดของพวกเขา
ทั้งนี้ ทีมวิจัยระบุว่า การจะเข้าใจงานวิจัยชิ้นนี้ได้ จะต้องเข้าใจแนวคิด ‘identity fusion’ ซึ่งเป็นแนวคิดที่อธิบายว่า อัตลักษณ์คนเรามีทั้งทางสังคมและทางบุคคล ซึ่งมันมักจะหลอมรวมเข้าด้วยกันและแยกจากกันไม่ได้ โดยที่อัตลักษณ์จะเป็นตัวกำหนดอุปนิสัยและบุคลิกภาพของคน
ดังนั้น การหลอมรวมอัตลักษณ์ของเกมเมอร์เข้าไป อาจทำให้พวกเขาเหล่านั้นมีแนวโน้มที่จะมีพฤติกรรมสุดโต่งมากขึ้น
ทีมวิจัยอธิบายว่า เกมเปรียบเสมือน ‘ดาบสองคม’ เพราะชุมชนเกมนั้นๆ อาจมีสิ่งที่ดีสำหรับเหล่าเกมเมอร์ เช่น ช่วยปลอบปะโลมความเหงา แต่ในขณะเดียวกัน ก็อาจทำให้พวกเขาเผชิญกับความ toxic และความเกลียดชังได้เช่นกัน
ซึ่งสถานการณ์แย่ที่สุดที่อาจเกิดขึ้นได้ คือ เกมเมอร์อาจถูกหลอกให้โอบรับความเชื่อที่สุดโต่ง อันอาจนำมาสู่ความรุนแรงได้ในท้ายที่สุด
อีกส่วนหนึ่งที่น่าสนใจจากงานวิจัย คือ พวกเขาศึกษาความแตกต่างของชุมชนเกม Minecraft และ Call of Duty เพื่อค้นพบว่า พฤติกรรมต่อต้านสังคม เหยียดเชื้อชาติและเหยียดผู้หญิง จะพบเจอได้มากกว่าในชุมชนเกม Call of Duty
อย่างไรก็ดี ทีมวิจัยชี้แจงชัดเจนว่าไม่ได้โจมตีเหล่าเกมเมอร์ ไม่ได้บอกว่าการเล่นเกมคือสิ่งที่ผิด และไม่ได้ชี้ว่าคนเล่นเกมทุกคนจะมีพฤติกรรมที่รุนแรง เพียงแต่อธิบายให้เห็นถึงแนวโน้มที่เป็นไปได้เท่านั้น
พฤติกรรม toxic ไม่ได้จำกัดแค่ในเกมเสมอไป แต่มันอยู่ทั่วอินเทอร์เน็ต แต่เหตุที่เกมขึ้นชื่อด้านนี้ อาจเพราะเราสามารถเล่นได้อย่างนิรนาม ซึ่งก็นำมาสู่ความเห็นใจและความรับผิดชอบที่น้อยลง
อ่านถึงตรงนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะตั้งคำถามว่า แล้วเราเป็นแบบนั้นหรือเปล่านะ หากไม่ ก็อยากชวนมาสร้างชุมชนเกมที่น่าอยู่ไปด้วยกัน
อ้างอิงจาก