หลังอีลอน มัสก์ (Elon Musk) ทุ่มเงินซื้อทวิตเตอร์ด้วยมูลค่า 44 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จนกลายเป็นเจ้าของกิจการ ก็มีกระแสข่าวว่าเขาอาจปรับโครงสร้างด้วยการไล่พนักงานในบริษัทออกด้วย
ทำเอาสื่อหลายแห่งถึงกับมาเฝ้าหน้าสำนักงานใหญ่ของทวิตเตอร์ เพื่อจับตาว่ามัสก์จะไล่พนักงานออกจริงหรือไม่ จนเจอกับชาย 2 รายที่ถือกล่องคล้ายกับกำลังเก็บของออกจากบริษัท ยืนอยู่หน้าทางเข้าของสำนักงานใหญ่
พวกเขากำลัง ‘สวมบทบาท’ เป็นพนักงานที่ถูกทวิตเตอร์เลิกจ้าง !
หนึ่งในคู่หูที่แกล้งสวมบทบาทบอกว่าตัวเองชื่อ ราหุล ลิกมา (Rahul Ligma) ซึ่งเป็นชื่อที่มักใช้กันในมีมของชาวเน็ตตะวันตก ขณะที่อีกคนบอกว่าตัวชื่อ แดเนียล จอห์นสัน (Daniel Johnson)
พวกเขาอ้างว่าตัวเองเป็น data engineer และทำให้นักข่าวจาก CNBC, Bloomberg, Daily Mail, ABC7 และ NBC เชื่อว่าเขาคือพนักงานที่โดนไล่ออกจริงๆ และรายงานเรื่องนี้สู่สาธารณชน
นักข่าวจาก ABC7 ถึงกับทวีตข้อความว่า “พนักงานทวิตเตอร์กำลังออกจากบริษัทวันนี้ เขาบอกว่าเขาถูกไล่ออกระหว่างประชุมใน zoom และไม่รู้ว่าจะทำงานอะไรต่อไป”
อย่างไรก็ดี ข้อมูลเหล่านี้ได้รับการยืนยันว่าไม่เป็นความจริง สำนักข่าว The Verge เผยว่า ชาย 2 รายนี้แค่หลอกลวง ชื่อของราหุล ลิกมา ไม่เคยปรากฎใน slack ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ทวิตเตอร์ใช้ทำงาน และไม่เคยปรากฎในรายชื่ออีเมลเลย ทั้งยังไม่ปรากฎข้อมูลของเขาใน LinkedIn อีกด้วย
สอดคล้องกับที่ พอล ลี (Paul Lee) พนักงานตำแหน่ง product manager ของทวิตเตอร์ ทวีตข้อความว่า “ตลกมากที่สำนักข่าวใหญ่ๆ ล้มเหลวที่จะมีความพยายามพื้นฐานและโดนนักแสดงหลอก จนทำให้เกิดการเผยแพร่ข้อมูลที่ผิด ในวันแรกที่ทวิตเตอร์มีเจ้าของใหม่”
“สิ่งที่คุณต้องทำ ก็แค่ขอดูบัตรยืนยัน หรือขอดูสิ่งของที่มีสัญลักษณ์ของทวิตเตอร์ในกล่องก็ได้ แล้วก็นะ พวกเราไม่ใช้ zoom” ลี ระบุ
อย่างไรก็ดี ทันทีที่มัสก์เข้ามาเป็นเจ้าของทวิตเตอร์คนใหม่ ก็มีรายงานว่าเขาไล่ผู้บริหารระดับสูง 4 รายออกทันที ได้แก่ ปารัก อักราวัล (Parag Agrawal) CEO ของทวิตเตอร์, เน็ด เซกัล (Ned Segal) CFO หรือประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน, วิจายา แกดด์ (Vijaya Gadde) ผู้บริหารด้านกฎหมายและนโยบาย, และ ฌอน เอ็ดเจ็ตต์ (Sean Edgett) ที่ปรึกษาทั่วไป
อ้างอิงจาก