ดีลควบรวม 2 สำนักพิมพ์ยักษ์ใหญ่แห่งวงการหนังสือสหรัฐฯ ไปต่อไม่ได้จนต้องล่ม หลังศาลแขวงสหรัฐฯ ประจำเขต ดี.ซี. (U.S. District Court for the District of Columbia) มีคำสั่งห้ามดำเนินการต่อเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (31 ตุลาคม)
ดีลดังกล่าวเกิดจาก ‘เพนกวิน แรนดอม เฮาส์’ (Penguin Random House) สำนักพิมพ์เจ้าตลาดของสหรัฐฯ ที่ประกาศเข้าซื้อ ‘ไซมอน & ชูสเตอร์’ (Simon & Schuster) สำนักพิมพ์ยักษ์ใหญ่อีกราย ด้วยมูลค่า 2.2 พันล้านดอลลาร์ฯ หรือประมาณ 8.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งเมื่อควบรวมแล้ว จะทำให้ครอบครองหนังสือเบสต์เซลเลอร์กว่า 49% ของทั้งตลาด
หลังถูกกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (Department of Justice) ยื่นฟ้องให้ยุติดีลเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา ศาลแขวงสหรัฐฯ นำโดยผู้พิพากษา ฟลอเรนซ์ วาย. แพน (Florence Y. Pan) ก็เพิ่งมีคำสั่งห้ามดำเนินการต่อ โดยระบุเหตุผลว่า จะเป็นการ “ลดทอนการแข่งขันในตลาดสำหรับการถือครองหนังสือเบสต์เซลเลอร์ของสหรัฐฯ”
ต่อมาภายหลัง เพนกวิน แรนดอม เฮาส์ จึงได้ออกแถลงการณ์ ‘ไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรง’ กับการตัดสินใจดังกล่าว โดยมองว่า “เป็นความพ่ายแพ้ของนักอ่านและนักเขียนที่ไม่ควรต้องเกิดขึ้น” พร้อมระบุว่า จะดำเนินการยื่นอุทธรณ์ด่วนทันที
สำหรับเหตุผลที่ควรสั่งห้าม รัฐบาลสหรัฐฯ ระบุในการไต่สวนว่า ปัจจุบันวงการหนังสือสหรัฐฯ มีสำนักพิมพ์ใหญ่เพียง 5 เจ้า ที่ควบคุม 90% ของตลาดทั้งหมด และการควบรวมครั้งนี้จะทำให้กลายมาเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เกือบครึ่งของตลาด ซึ่งจะส่งผลกระทบกับรายได้ของนักเขียนเบสต์เซลเลอร์ (หมายถึงได้ค่าต้นฉบับมากกว่า 250,000 ดอลลาร์ฯ ขึ้นไป) ที่จะน้อยลง
เช่นเดียวกับ โจนาธาน แคนเทอร์ (Jonathan Kanter) ผู้ช่วยอัยการสูงสุดสหรัฐฯ ที่ออกแถลงการณ์ ระบุว่า การควบรวมจะส่งผลให้การแข่งขันลดลง รายได้นักเขียนลดลง ลดทอนความลุ่มลึกและความหลากหลายของไอเดียและเรื่องราวต่างๆ หรือกระทั่งส่งผลกระทบต่อประชาธิปไตยสหรัฐฯ
ฝ่ายที่ต่อต้านการควบรวมครั้งนี้ยังรวมไปถึงนักเขียนของ ไซมอน & ชูสเตอร์ เอง นั่นก็คือ สตีเฟน คิง (Stephen King) นักเขียนนวนิยายสยองขวัญชื่อดัง ที่เคยมาให้การฝั่งตรงข้ามสำนักพิมพ์ของเขาในชั้นศาล และเพิ่งทวีตวันนี้ (1 พฤศจิกายน) ว่าตัวเขา ‘ดีใจ’ ที่ศาลสั่งห้ามควบรวม
คิงทวีตว่า “การควบรวมที่ถูกเสนอขึ้นมานั้น ไม่เคยเป็นไปเพื่อนักอ่านและนักเขียนเลย แต่มันเป็นเรื่องของการรักษา (และเพิ่ม) ส่วนแบ่งในตลาดของ เพนกวิน แรนดอม เฮาส์ ต่างหาก หรือกล่าวอีกอย่างก็คือ: $$$”
คำสั่งห้ามของศาลครั้งนี้ แม้จะไม่ใช่เรื่องที่เกินคาดหมาย แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องใหม่สำหรับอุตสาหกรรมหนังสือสหรัฐฯ ที่มักจะควบรวมกันบ่อยๆ โดยไม่มีการแทรกแซงของรัฐบาล การควบรวมของ ‘เพนกวิน’ และ ‘แรนดอม เฮาส์’ เมื่อปี 2013 เอง ก็เคยเป็นดีลใหญ่ที่สะเทือนวงการมาแล้วด้วยเช่นเดียวกัน
ในขณะเดียวกัน รัฐบาลของ โจ ไบเดน (Joe Biden) ก็มุ่งมั่นมากกับการปราบปรามการควบรวมธุรกิจที่อาจไม่เป็นธรรม คำพิพากษาของศาลครั้งนี้ จึงถือเป็นชัยชนะของรัฐบาลไบเดน แต่ก็จะส่งผลกระทบกับวงการหนังสือไปอีกนาน และพาให้คนมาจับตาว่าใครจะตกเป็นเป้าหมายรายต่อไป – จะใช่ยักษ์ใหญ่อีกรายที่เข้ามาโลดแล่นในอุตสาหกรรมหนังสืออย่างแอมะซอน (Amazon) หรือเปล่า?
อ้างอิงจาก