หลัง กสทช. มีมติ ‘รับทราบ’ ดีลควบรวมของ 2 บริษัทโทรคมนาคยักษ์ใหญ่ เมื่อ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา ตั้งแต่วันนั้น ทางสภาองค์กรของผู้บริโภคก็เคลื่อนไหวและประกาศทันทีว่าจะยื่นฟ้อง กสทช. ต่อศาลปกครอง เหตุปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
วันนี้ (10 พฤศจิกายน) สภาองค์กรของผู้บริโภคและเครือข่าย เข้ายื่นฟ้อง กสทช. ต่อศาลปกครอง เพื่อให้เพิกถอนมติ ‘รับทราบ’ การควบรวมธุรกิจทรู–ดีแทค โดยนำรายชื่อผู้บริโภค 2,022 คนที่สนับสนุนการฟ้อง ยื่นให้ศาลปกครองด้วย
สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค ให้สัมภาษณ์ว่า การยื่นฟ้องเกิดจากการลงมติของ กสทช. ขัดต่อกฎหมาย ประธานที่ประชุมโหวตอย่างไม่ถูกต้อง และกระบวนการดำเนินการยังมีปัญหา เช่น รายงานผลกระทบยังไม่แล้วเสร็จ และมาตรการที่ออกมาเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคก็ไม่มีการรับฟังความเห็น
นอกจากนี้ สารี ระบุด้วยว่า การรับทราบดีลควบรวม ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคกว้างขวาง สภาองค์กรของผู้บริโภคจึงมายื่นคำฟ้องให้เพิกถอนมติ และขอให้มีการคุ้มครองชั่วคราวก่อนจะพิพากษา เพราะหากไม่คุ้มครอง บริษัทดำเนินการควบรวม ก็อาจกระทบต่อนักลงทุน–ผู้ถือหุ้นรายย่อย
“สิ่งที่เราอยากเห็น คือ อยากให้ กสทช. ใช้อำนาจตัวเองตามกฎหมายในการพิจารณาเรื่องนี้ ไม่ใช่ดำเนินการในระดับรับทราบ” สารี กล่าว ก่อนเสริมเพิ่มเติมว่า อำนาจในการระงับการผูกขาด คืออำนาจของ กสทช. ตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญ แต่องค์กรกลับไม่ทำ ทำแค่ระดับรับทราบ
การยื่นฟ้องครั้งนี้มีตัวแทนนักการเมืองจากหลายพรรครวมสนับสนุน เช่น แทนคุณ จิตต์อิสระ จากพรรคประชาธิปัตย์ และ ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.พรรคก้าวไกล
ด้าน ศิริกัญญา ระบุว่า การลงมติควบรวมนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นกระบวนการที่ผิดปกติ
“ผลกระทบที่เกิดกับประชาชนมันชัดเจนว่า การลงมติแบบนี้คือการไม่ใช้อำนาจเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน เป็นการไม่ป้องกันไม่ให้เกิดการผูกขาดในธุรกิจคมนาคม” ศิริกัญญา กล่าว
ซึ่งพรุ่งนี้ ศิริกัญญาแจงว่า จะเดินหน้ายื่นร้องเรียน กสทช. ต่อ คณะกรรมการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ฐานประพฤติผิดโดยมิชอบด้วยกฎหมายต่อไป
อ้างอิงจาก