การเรียกร้องเพื่อแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนในยุโรปยังดำเนินต่อเนื่อง ล่าสุดชายสองคนจากกลุ่ม Last Generation Austria ได้เข้าไปในพิพิธภัณฑ์ลีโอปอลด์ ก่อนสาดสารสีดำเหนียวคล้ายน้ำมันใส่กระจกที่ครอบด้านนอกของภาพวาด “ชีวิตและความตาย (Death and Life)” ของกุสทัฟ คลิมท์ เพื่อประท้วงให้มีการหยุดใช้น้ำมันและก๊าซเพื่อแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน
ทันทีที่ชายทั้งสองคนสาดสารดังกล่าวใส่ภาพวาด เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้มาควบคุมตัวชายคนหนึ่งในทันที ขณะที่ชายอีกคนได้เอามือแปะไปที่กระจกแล้วแล้วกล่าวประนามการขุดเจาะก๊าซและน้ำมันว่ามันเป็น “คำสั่งประหารสำหรับสังคม” และตะโกนต่อว่า “เรารู้ถึงปัญหานี้มา 50 ปีแล้ว และถึงเวลาที่ต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว ก่อนที่โลกนี้จะพังลง”
ด้านทวิตเตอร์ของกลุ่ม Last Generation Austria ได้ทวีตวีดีโอเหตุการณ์ดังกล่าวพร้อมระบุข้อความคล้ายกันว่า “การขุดเจาะก๊าซและน้ำมันคือคำสั่งประหารมนุษยชาติ” ก่อนเรียกร้องให้มีการออกมาตรการที่จริงจังกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพื่อรับมือกับปัญหาสภาพภูมิอากาศที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาในพิพิธภัณฑ์และล้างคราบสารดังกล่าวออกจากกระจกทั้งหมด โดยทางด้านพิพิธภัณฑ์ยืนยันว่าภาพวาดดังกล่าวไม่ได้รับความเสียหายใดๆ
ทางด้าน อองเดรีย เมเยอร์ รัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมของออสเตรียได้แสดงความเห็นถึงกรณีนี้ว่า เขาไม่เห็นด้วยกับการโจมตีภาพวาดที่ทรงคุณค่าเช่นนี้ เพราะศิลปะและวัฒนธรรมเป็นแนวรบที่ร่วมยืนข้างวิกฤตสภาพภูมิอากาศมาโดยตลอด ไม่ใช่คู่ตรงข้าม
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เหตุการณ์คล้ายกันนี้เกิดขึ้น เมื่อปลายเดือนตุลาคม กลุ่ม Last Generation ก็ได้สาดมั่นฝรั่งบดใส่ภาพวาดของ โคลด์ โมเนต์ ในพิพิธภัณฑ์เยอรมนี ก่อนหน้านั้นในอังกฤษ ก็ได้มีการสาดซุปมะเขือเทศใส่ภาพวาด ‘ดอกทานตะวัน’ ของ วินเซนต์ แวนโก๊ะห์
อ้างอิงจาก:
https://twitter.com/letztegenAT/status/1592461949719437312?s=20&t=ewjjNTchdhS8MZGZV50S8Q
https://groundcontrolth.com/behind-the/62