เริ่มต้นปีใหม่ แคนาดาเพิ่งบังคับใช้กฎหมายฉบับใหม่ ห้ามชาวต่างชาติซื้อบ้านในแคนาดา ในฐานะการลงทุน เป็นเวลา 2 ปี นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2023 เป็นต้นไป หวังแก้ปัญหาราคาในตลาดอสังหาริมทรัพย์พุ่งเกินกว่าค่าครองชีพ
กฎหมายดังกล่าว ซึ่งเรียกว่า ‘Prohibition on the Purchase of Residential Property by Non-Canadians Act’ ห้ามคนที่ไม่ใช่พลเมืองแคนาดา หรือผู้พำนักถาวร (permanent residents) ซื้ออสังหาริมทรัพย์สำหรับการอยู่อาศัย โดยหากฝ่าฝืนก็จะมีค่าปรับ 10,000 ดอลลาร์แคนาดา หรือประมาณ 250,000 บาท
จุดประสงค์หลักคือเพื่อแก้ปัญหาราคาบ้านพุ่งในตลาดอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ คือเพื่อพยายามไม่ให้ผู้ซื้อมองว่าบ้านเป็นสินค้า แทนที่จะมองว่าเป็นสถานที่อยู่อาศัยและเลี้ยงดูครอบครัวด้วย
“ด้วยกฎหมายฉบับนี้ เรากำลังลงมือเพื่อให้แน่ใจว่า บ้านจะมีคนแคนาดาเป็นเจ้าของ เพื่อประโยชน์ของทุกคนที่อาศัยอยู่ในประเทศนี้” อาห์เม็ด ฮุสเซน (Ahmed Hussen) รัฐมนตรีด้านการเคหะและความแตกต่างหลากหลาย กล่าวในแถลงการณ์
อย่างไรก็ดี กฎหมายฉบับนี้ยังมีข้อยกเว้นอยู่บ้าง รัฐบาลแคนาดาเพิ่งประกาศเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมาว่า กฎหมายดังกล่าวจะไม่บังคับใช้กับ นักเรียนต่างชาติที่อยู่ในประเทศมาอย่างน้อย 5 ปี, ผู้ขอสถานะผู้ลี้ภัย และผู้ที่มีใบอนุญาตทำงานชั่วคราว (temporary work permits)
สำหรับราคาบ้านโดยเฉลี่ยในแคนาดา มีราคาอยู่ที่ 777,200 ดอลลาร์แคนาดา หรือประมาณ 19.4 ล้านบาท ซึ่งสูงค่ามัธยฐานของรายได้ครัวเรือนหลังหักภาษี มากกว่า 11 เท่า
ขณะที่ราคาบ้านโดยเฉลี่ยในสองเมืองใหญ่ โทรอนโตและแวนคูเวอร์ ก็แตะถึง 1 ล้านดอลลาร์แคนาดา หรือประมาณ 25 ล้านบาท ทำให้ทั้งสองเมืองติดเป็นส่วนหนึ่งในท็อป 10 เมืองที่แพงที่สุดในโลกด้วย
สถิติต่างๆ เหล่านี้ ทำให้สัดส่วนราคาบ้านต่อรายได้ ในตลาดอสังหาริมทรัพย์แคนาดา ถือว่าสูงกว่าในหลายๆ ประเทศ เช่น นิวซีแลนด์ เยอรมนี สหรัฐฯ สวิตเซอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส และอีกจำนวนมาก
อ้างอิงจาก