ในวัย 20 ปี โฮดา มูธานา (Hoda Muthana) ตัดสินใจหนีออกจากบ้านที่อัลบามา ประเทศสหรัฐฯ เพื่อนั่งเครื่องบินข้ามแดนมาเข้าร่วมกลุ่มรัฐอิสลาม (Islamic Stat) หรือ ไอเอส (IS) และ 8 ปีต่อมา เธอเผยว่าเสียใจกับสิ่งที่ทำไป และยังหวังว่าจะได้กลับบ้านอีกครั้ง
“ต่อให้ต้องเข้าคุก และรับกรรมในนั้น ฉันก็จะทำ… ฉันจะไม่ขัดขืนใดใดเลย” มูธานา กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว The News Movement “ฉันหวังว่ารัฐบาลของฉันจะมองเห็นว่าฉันในตอนนั้นเป็นแค่เด็กใสซื่อ และไร้เดียงสา” เธอเสริม
มูธานาให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า เธอในขณะนั้นถูกล้างสมองโดยโลกออนไลน์ จึงตัดสินใจทิ้งบ้านไปเข้าร่วมกลุ่มไอเอสเมื่อปี 2014 และเสียใจกับทุกสิ่งที่กระทำไป
ในอดีต มูธานาเคยถือพาสปอร์ตของสหรัฐฯ เธอเป็นลูกหลานของผู้อพยพชาวเยเมน เกิดที่รัฐนิวเจอร์ซีย์ และไปเติบโตที่รัฐแอละบามาของสหรัฐฯ จนกระทั่งวันหนึ่งในปี 2014 เธอบอกครอบครัวว่าจะไปทัศนศึกษา แต่กลับตีตั๋วเดินทางไปตุรกี และข้ามแดนไปยังซีเรีย
ในปี 2015 เธอเคยโพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ เชิญชวนให้ชาวอเมริกันเข้าร่วมกลุ่มหัวนุนแรงสุดโต่ง โดยชวนให้ออกมาร่วมโจมตีในสหรัฐฯ เช่น ชวนให้ขับรถกราดยิงในวันหยุดนักขัตฤกษ์ เป็นต้น อย่างไรก็ดี เธออ้างในภายหลังว่าโทรศัพท์ถูกขโมยไป
กระท่ังในปี 2019 มูธานาทนสภาพความเป็นอยู่ไม่ไหว จึงตัดสินใจหนีออกมาจากกลุ่มลัทธิสุดโต่ง และในปัจจุบัน เธอถูกคุมตัวอยู่ที่ค่ายกักกันรอจ (Roj) ของกองกำลังชาวเคิร์ดที่เป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯ ในซีเรีย
มูธานายืนยันหนักแน่นว่าพร้อมรับโทษจำคุก และพร้อมสนับสนุนการต่อต้านลัทธิสุดโต่ง หากได้กลับบ้านไป แต่การจะกลับบ้านคงไม่ง่ายนัก เพราะรัฐแอละบามาริบสถานะพลเมืองของมูธานาตั้งแต่ปี 2016 ส่งผลให้เธอเสียสถานะพลเมืองของสหรัฐฯ ไป แน่นอนว่าอะไรๆ จึงยากขึ้น
และแม้ว่าเธอจะพยายามขอร้องหรือยื่นเรื่องมากเพียงใด ทางสหรัฐฯ ก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะให้เธอกลับมา อย่างเมื่อเดือนมกราคมปีก่อน ศาลสูงสุดสหรัฐฯ ก็เพิ่งปฏิเสธที่จะพิจารณาคดีของเธอใหม่อีกครั้ง
เป็นเหตุให้มูธานาและลูกชายของเธอยังต้องอยู่อย่างยากลำบากในค่ายกักกัน ซึ่งค่ายนี้เป็นค่ายที่เต็มไปด้วยหญิงม่ายนับพันคน พร้อมด้วยลูกๆ ที่ลาจากกับชายจากกลุ่มนักรบไอเอส
“ที่นี้ ในขณะนี้ ฉันยังไม่สามารถพูดทุกอย่างที่อยากพูดได้ แต่หากฉันได้ออกไป ฉันจะพูด ฉันจะเป็นกระบอกเสียงต่อต้านสิ่งเหล่านี้ ฉันหวังว่าจะได้ทำให้เหยื่อของกลุ่มไอเอสเข้าใจได้ว่า ฉันไม่ใช่ส่วนหนึ่งของพวกนั้น และฉันเองก็เป็นเหยื่อของกลุ่มไอเอสเหมือนกัน” มูธานา ระบุ
อ้างอิงจาก
https://www.foxnews.com/world/alabama-woman-who-joined-isis-hoping-allowed-back-us