หลังจากย้ายมาอยู่หน้าศาลได้ 4 วัน รายงานอาการวันนี้ (28 กุมภาพันธ์) ของตะวัน—ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และแบม—อรวรรณ ภู่พงษ์ หลังจากที่ทั้งสองเดินทางออกจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ไปอดอาหารต่อที่หน้าศาลฎีกา (ลานอากงสนามหลวง) ระบุว่า ทั้งสองคนอยู่ในขั้นวิกฤต ถ้าปล่อยให้อดอาหารต่อไปเสี่ยงต่อการมีภาวะไตวาย ตับวาย และทุพพลภาพ
แพทย์จากโรงพยาบาลตำรวจเข้าพบทั้งสอง และเสนอว่าโรงพยาบาลพร้อมจะเอารถฉุกเฉินมารอ พร้อมดูแลได้ และหากไว้วางใจก็เข้ามาดูแลได้ ขณะที่ อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 พร้อมด้วยทีมแพทย์จากโรงพยาบาลตำรวจ และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน เดินทางมาขอตรวจร่างกาย
ทีมแพทย์ประเมินว่าทั้งสองอยู่ในขั้นวิกฤต และผลเลือดมีค่าความเป็นกรดสูง ถ้าปล่อยให้อดอาหารต่อไปเสี่ยงต่อการมีภาวะไตวาย ตับวาย ทุพพลภาพ ดังนั้นทีมแพทย์จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงเดินทางมาเพื่อดูว่าจะช่วยเหลือทางการแพทย์อย่างไรได้บ้างเพื่อให้ทั้งสองคนมีสุขภาพที่ดีขึ้น และหากทั้งคู่ประสงค์เดินทางไปโรงพยาบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยินดีที่จะอำนวยความสะดวก
แต่ตะวันแบมปฏิเสธ เนื่องจากไม่มีความประสงค์ที่จะรักษา หรือได้รับการดูแลจากแพทย์ที่อยู่ในความคุมของรัฐ
อย่างไรก็ดี ทีมแพทย์กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้บังคับว่าทั้งสองจะต้องไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ หากประสงค์ไปโรงพยาบาลใดก็พร้อมประสานงานให้ แต่ถ้าอยู่ในขั้นวิกฤตแล้วต้องไปที่โรงพยาบาลใกล้ที่สุด
ขณะที่ รายงานอัพเดทอาการทางกายของตะวันในขณะนี้ คือทั่วไปถามตอบรู้เรื่อง อ่อนเพลียบ้าง ยังมีอาการวิงเวียนเวลาเปลี่ยนท่า แต่ลุกได้ ไม่มีคลื่นไส้อาเจียน ปวดท้องใต้ชายโครงซ้ายลักษณะจี๊ดๆ เป็นบางครั้ง กล้ามเนื้อลีบ เวลานอนจะปวดบริเวณไหล่ขวา เพราะมีปุ่มกระดูกออกมาจากร่างกายที่ซูบผอม
และอาการทางกายของแบม ทั่วไปถามตอบรู้เรื่องดี อ่อนเพลียบ้าง ยังมีอาการวิงเวียนเวลาเปลี่ยนท่า ลุกนั่งได้ เวลานั่งจะสบายกว่านอน เพราะนอนแล้วเวียนหัว เป็นเหน็บชาเป็นพักๆ ตรงขา กล้ามเนื้อลีบ เหนื่อย ไม่มีคลื่นไส้อาเจียน ปวดท้องแน่นๆ ใต้ลิ้นปี่เหมือนลมตี เวลานอนจะปวดบริเวณเข่า 2 ข้าง เพราะกระดูกเสียดสีกัน
โดยสภาพจิตใจของทั้งคู่เป็นกังวลเรื่องการสลายชุมนุม เป็นห่วงเพื่อนๆ ที่อยู่หน้าศาล จึงทำให้นอนไม่ค่อยหลับเมื่อคืน ซึ่งเมื่อคืนตะวันหลับได้ตอนตี 4 แต่ก็หลับได้สั้นๆ ส่วนแบมหลับได้ตอนตี 2 แต่ก็หลับได้สั้นๆ เช่นกัน
ทั้งสองคนแจ้งว่า ไม่สามารถจิบสารน้ำเกลือได้ตามคำแนะนำ เนื่องจากในช่วง 2 วันที่ผ่านมามีเหตุการณ์เกิดขึ้นหลายๆ อย่าง ตั้งแต่ความกังวลว่าจะมีการสลายชุมนุม การย้ายที่พัก และการที่เจ้าหน้าที่ศาลเข้ามาพ่นยากันยุงในบริเวณเมื่อช่วงเย็น ทำให้ตกใจกับกลิ่นควันยาที่เข้ามาในเต็นท์
แต่เนื่องจากพวกเธอยังรอคอยผลคำสั่งของประกันของเพื่อนอีก 3 คน พวกเธอจึงสัญญาว่าจะจิบสารน้ำเกลือเพิ่มขึ้น แต่ยังคงยืนยันจะขอต่อสู้โดยอดอาหารและน้ำ และปฏิเสธการรักษา
อย่างไรก็ดี ผู้สื่อข่าวได้สอบถามทนายความว่า ปัจจุบันอาการป่วยของตะวัน และแบมมีผู้มาดูแลให้หรือไม่ ซึ่งทนายกฤษฎางค์ นุตจรัส จากศูนย์ทนายฯ กล่าวว่า แต่ละวันมีการตรวจอาการทั้งคู่อยู่แล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ และส่วนตัวอยากให้ทั้งสองกลับเข้าสู่กระบวนการรักษา
อย่างไรก็ตาม ต่อมาตะวันและแบมยินยอมให้ทีมแพทย์เข้าไปตรวจสอบอาการเบื้องต้น แต่ไม่ยินยอมที่จะให้เจาะเลือด วัดความดันหรือทำหัตถการใดๆ เพราะว่าทั้งสองพอมีประสบการณ์จากหมอที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ในการดูแลตัวเองเบื้องต้นแล้ว ส่วนสาเหตุที่ยอมเพราะว่าเห็นว่า แพทย์มีน้ำใจเข้ามาตรวจ แต่ไม่ต้องการเดินทางไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล
สำหรับกรณีที่มีกระแสข่าวว่าเจ้าหน้าที่จะเข้าสลายการชุมนุมบริเวณดังกล่าว เนื่องจาก มีการเขียนป้ายระบุข้อความหมิ่นศาล มีรายงานว่า เป็นการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนกันระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้ชุมนุม เพราะเจ้าหน้าที่ต้องการให้จุดพักของตะวันและแบม รวมถึงต้องการให้ผู้ชุมนุมขยับไปที่ด้านหลังของอาคารศาลฎีกา เพื่อให้มีร่มเงา หลบแดดได้
อ้างอิงจาก