“สุพรรณหงส์ไม่เหลือความศักดิ์สิทธิ์แล้ว เพราะจะเหลือแค่หนังไม่กี่ค่ายแล้วที่ได้ที่นั่งเยอะขนาดนั้น เช่น หนังเครือ GDH หนังเครือ Major แค่นั้นเอง เพราะค่ายอื่นก็ไม่มีใครขายได้เท่าแล้ว แบบนี้เราจะผลิตหนังกันไปทำไม”
ขณะนี้ สังคมกำลังวิจารณ์เวทีสุพรรณหงส์ด้วยประเด็นเกณฑ์การคัดเลือกหนังชิงรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติสุพรรณหงส์ว่า ไม่เป็นธรรม และเอื้อประโยชน์ให้หนังค่ายใหญ่ ผ่านแฮชแท็ก #แบนสุพรรณหงส์
เรื่องเพิ่งเป็นประเด็นวันนี้ (30 มีนาคม) หลัง ศราวุธ แก้วน้ำเย็น ผู้ออกแบบงานสร้าง (production designer) ของหนังเรื่อง ‘เวลา’ (Anatomy of Time) เล่าผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่าหนังเรื่อง ‘เวลา’ ถูกตัดสิทธิและไม่ผ่านเกณฑ์เข้าชิงรางวัลของสุพรรณหงส์ เพราะเวทีมีเกณฑ์ว่าหนังที่จะเข้ารอบคัดเลือกต้องเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ให้ครบ 5 ภูมิภาคของไทย และต้องมียอดคนดูไม่ต่ำกว่า 50,000 ที่นั่ง
ศราวุธให้สัมภาษณ์กับ The MATTER ว่า “เวทีประกาศคัดหนังออกและแจ้งมาทางโปรดิวเซอร์ โดยระบุแค่ว่าหนัง ‘ไม่ผ่านเกณฑ์’ ก็เลยให้โปรดิวเซอร์ไปถามเหตุผลที่ตัดสิทธิ ทางเขาแจ้งมาว่า ปีนี้เปลี่ยนกฎ ซึ่งกฎระบุว่า จะต้องฉายใน 5 ภูมิภาค และต้องมียอดคนดู 50,000 ที่นั่ง กับยอด 8 ล้านบาท จึงจะเข้าเกณฑ์ตัดสิน”
เขาประเมินว่าเกณฑ์เช่นนี้อาจทำให้ค่ายเล็กผลิตภาพยนตร์น้อยลงไปอีก พร้อมระบุว่า “มันเป็นธุรกิจผูกขาดจนเกินไป และลามมาถึงกระทั่งการตัดสินรางวัล เราจะยอมกันหรอ อย่าลืมว่ามันก็คือกระแสการเสพสื่อหลักของประเทศนะ”
“สุพรรณหงส์ไม่เหลือความศักดิ์สิทธิ์แล้ว เพราะจะเหลือแค่หนังไม่กี่ค่ายแล้วที่ได้ที่นั่งเยอะขนาดนั้น เช่น หนังเครือ GDH หนังเครือ Major แค่นั้นเอง เพราะค่ายอื่นก็ไม่มีใครขายได้เท่าแล้ว แบบนี้เราจะผลิตหนังกันไปทำไม” ศราวุธ กล่าว
ดูเหมือนเรื่องราว #แบนสุพรรณหงส์ จะเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวที่ส่งผลวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะล่าสุด คนวงการหนังจำนวนมากออกมาประกาศจุดยืนว่าไม่สนับสนุนเกณฑ์การพิจารณาดังกล่าว ด้วยมองว่าไม่เป็นธรรม
ขณะเดียวกัน มีผู้ได้รับการเสนอชื่อประกาศถอนตัวจากการเข้าชิงรางวัลสุพรรณหงส์ด้วย เช่น เต๋อ–นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ ผู้กำกับภาพยนตร์ Fast & Feel Love, บาส – นัฐวุฒิ พูนพิริยะ ผู้กับกำภาพยนตร์ One For The Road, และปิ๊ง–อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม ผู้กำกับภาพยนตร์ บุพเพสันนิวาส ๒, ที่ประกาศถอนตัวจากการถูกเสนอชื่อเพื่อชิงรางวัล โดยอ้างว่าไม่เห็นด้วยกับเงื่อนไขและกติกา