เมื่อพูดถึงผู้กำกับอนิเมชั่นชาวญี่ปุ่น นอกจากพ่อมดผู้ปลุกปั้นสตูดิโอจิบลิ (Ghibli) จนโด่งดังอย่าง ‘มิยาซากิ ฮายาโอะ (Miyazaki Hayao)’ แล้ว อีกหนึ่งชื่อที่คออนิเมะยุคใหม่สรรเสริญคงหนีไม่พ้น ‘ชินไค มาโกโตะ (Shinkai Makoto)’ ผู้กำกับที่เผลอทำผู้ชมน้ำตาไหลล้นจอในผลงานฮิตถล่มทลายอย่าง ‘Your Name’
ปัจจุบันในวัย 50 ปี ชินไคคือนักสร้างอนิเมชั่นฝีมือดีภายใต้บริษัทโคมิกซ์ เวฟ ฟิล์มส (Comix Wave Films) เขาผลิตหนังป้อนสู่สายตาชาวโลกเฉลี่ย 3 ปีต่อเรื่อง แทบทุกเรื่องสร้างปรากฏการณ์ ไม่ทางรายได้ก็ในมุมเสียงวิจารณ์ แต่เมื่อลองย้อนเวลากลับไป เราก็คงต้องบอกว่าเส้นทางที่ชายผู้นี้ก้าวผ่านมาก็น่าสนใจไม่แพ้กัน
ปี 1994 ชินไคในวัย 21 ปี จบการศึกษาด้านวรรณกรรมญี่ปุ่นจากมหาวิทยาลัยชูโอ เขาเริ่มทำงานครั้งแรกที่บริษัทเกมอย่างฟาลคอม (Falcom) โดยรับหน้าที่กราฟิกดีไซน์เนอร์ ตำแหน่งซึ่งช่วยให้เฟิร์สทจ๊อบเบอร์อย่างเขามีความเชี่ยวชาญในการวาดและเพิ่มพูนทักษะด้านงานซีจีจนก้าวกระโดด
3 ปีต่อมา ชินไคทดลองผสานทักษะด้านวรรณกรรมาเข้ากับงานภาพที่เพิ่งเรียนรู้ จนได้ออกมาเป็นอนิเมชั่นขาวดำขนาดสั้นเรื่อง ‘Other Worlds’ ก่อนจะฝึกปรือฝีมือต่อเนื่องในอนิเมชั่นสั้น ‘She and Her Cat’ ที่ปล่อยตามออกมาใน 2 ปีให้หลัง ท้ายที่สุด ความหมกมุ่นที่มีต่องานอนิเมชั่นก็ทำให้เขาเลือกบอกลาบริษัทเกม แล้วหันมาเอาดีกับงานด้านนี้เต็มตัว ซึ่งเขาก็ทำได้ดีอย่างที่ตั้งใจไว้จริงๆ
ปี 2002 มาโกโตะสร้างงานอนิเมชันสี ความยาว 25 นาที เรื่อง ‘เสียงเพรียกจากดวงดาว (Voices of a Distant Star)’ เรื่องราวว่าด้วยความรักของเด็กมัธยมปลายภายใต้บริบทสงครามอวกาศ งานนี้ชินไคใช้เวลากว่า 7 เดือนในการเติมเต็มทุกขั้นตอนด้วยตัวคนเดียว ไล่ตั้งแต่กำกับ เขียนบท วาดภาพ สร้างภาพเคลื่อนไหว ไปจนถึงการลงเสียงตัวละคร
แม้จะต้องขอร้องแฟนสาวให้มาช่วยพากย์เสียงนางเอกของเรื่อง และดึงเพื่อนสนิทที่เคยร่วมงานในบริษัทเกมมาทำดนตรีประกอบให้ แต่การก่อร่างสร้างการ์ตูนเองได้ขนาดนี้เพียงลำพังก็นับเป็นความหวังและมาตรฐานใหม่ของวงการอนิเมชันอย่างแท้จริง ชายที่ชื่อชินไค มาโกโตะได้พิสูจน์ให้คนทั้งโลกเห็นว่า ‘หากมีวิสัยทัศน์และความตั้งใจที่ดีพอ คนคนเดียวก็สามารถเนรมิตลายเส้นเคลื่อนไหวที่มีลายละเอียดสูงได้ไม่แพ้สตูดิโอ’
หลังจากที่ผลงานสีเรื่องแรกออกฉาย ชื่อของอดีตกราฟิกดีไซน์เนอร์ก็เริ่มได้รับการกล่าวถึงมากขึ้นเรื่อยๆ จุดเด่นที่ผู้ชมติดใจในแทบทุกงานของเขาคือเรื่องราวว่าด้วยความรัก การรอคอย ระยะทาง และกาลเวลา ซึ่งบอกเล่าผ่านองค์ประกอบอย่างแมวเหมียว ท้องฟ้า น้ำฝน รถไฟ และโทรศัพท์มือถือ ว่ากันว่าเป็นรสนิยมฉบับคนเหงาที่เขาใช้เป็นแรงบันดาลใจในงานศิลปะ
ครั้งหนึ่งเขาเคยให้สัมภาษณ์กับสื่ออย่าง The Japan Times ว่า “ผมประหม่ามากตอนมาชินจูกุครั้งแรก ตึกนครบาลโตเกียวไฮเทคเหมือนกับหลุดออกมาจากโลกอนาคตเลย แต่พออยู่ไปเรื่อยๆ ผมก็เริ่มหลงรักความสวยงามของมัน”
ถ้อยคำของชินไค มาโกโตะถูกถ่ายทอดลงในตึกรามบ้านช่องและทิวทัศน์ของเมืองใหญ่ในหนังแทบทุกเรื่อง งานภาพที่ละเมียดละไมสามารถบันทึกห้วงอารมณ์เหงาๆ ในเมืองได้อย่างครบถ้วน เพลงประกอบที่ประณีตชวนฝันเองก็ช่วยประคับประคองสารพันเรื่องราวได้อย่างกลมกล่อม ลงตัว
ยิ่งผนวกเข้ากับแก่นเรื่องที่ตรงใจคนรุ่นใหม่ซึ่งส่วนใหญ่ต้องอาศัยไกลบ้าน จึงไม่แปลกเลยที่ผลงานของชินไคจะเข้าไปอยู่ในใจคนทุกเพศวัย เพราะแม้เรื่องราวลายเส้นจะเพ้อฝันเพียงใด มันก็ยังสามารถสะท้อนความรู้สึกคับแค้นเหงาหงอยในใจคนรุ่นใหม่ให้ออกมาเป็นรูปธรรมได้อย่างสมบูรณ์
และนี่คือผลงานขนาดยาวทั้งหมดของปรมาจารย์อนิเมะ
- เหนือเมฆา…ที่แห่งสัญญาของเรา (The Place Promised in Our Early Days) – เครื่องบิน คำสัญญา หอยคอยเสียดฟ้า และการเติบโต
- ยามซากุระร่วงโรย (5 Centimeters per Second) – 3 เรื่องสั้น 3 ช่วงวัย ที่หัวใจต้องต่อสู้กับระยะทางและกาลเวลา
- เด็กสาวกับเสียงเพรียกแห่งพิภพเทพา (Children Who Chase Lost Voices) – ความสัมพันธ์ที่ถูกกีดกั้นด้วยโลกคนเป็นและดินแดนคนตาย
- ยามสายฝนโปรยปราย (The Garden of Words) – อุปสรรครักปอน ๆ ในวันฝนตกของเด็ก ม.ปลาย ผู้ใฝ่ฝันอยากทำรองเท้าและครูภาษาอังกฤษผู้ไม่อาจก้าวข้ามชีวิตในอดีต
- หลับตาฝัน ถึงชื่อเธอ (Your Name) – ความผูกพันที่ทั้งโรแมนติกและวายป่วง เมื่อหนุ่มเมืองหลวงสลับร่างกับสาวชนบทที่ไม่เคยเจอมาก่อน
- ฤดูฝัน ฉันมีเธอ (Weathering with You) – สาวน้อยผู้สามารถแทนที่พายุฝนมหันตภัยด้วยแสงแดดและผืนฟ้าอันแจ่มใส แถมยังเผลอไปทำให้เด็กหนุ่มหัวใจพองโต
และวันนี้ ภาพยนตร์ขนาดยาวเรื่องที่ 7 ของมาโกโตะอย่าง ‘การผนึกประตูของซุซุเมะ (Suzume)’ จะเข้าฉายในประเทศไทยเป็นวันแรก มาคราวนี้เจ้าพ่ออนิเมะขออาสาพาผู้ชมไปติดตามเรื่องราวของ ‘ซูซุเมะ’ เด็กสาววัย 17 ผู้บังเอิญได้พบกับชายหนุ่มปริศนาที่ชักพาเธอเข้าสู่การหยุดยั้งภัยพิบัติครั้งใหญ่ ซึ่งการจะยับยั้งอันตรายทั้งหมดได้มีเพียงหนทางเดียวคือต้องปิดประตูลึกลับที่ซ่อนตัวอยู่ทั่วญี่ปุ่นให้สำเร็จ!
ก่อนหน้านี้ Suzume ครองอันดับ 1 บ็อกซ์ออฟฟิศในทุกประเทศที่เข้าฉาย กวาดรายได้ทั่วโลกไปแล้วเกือบ 4 พันล้านบาท คงต้องติดตามกันว่าความรัก ความห่างไกล และภัยพิบัติที่มาโกโตะบอกเล่าในคราวนี้จะทำงานกับความรู้สึกผู้ชมมากแค่ไหน งานภาพและดนตรีประกอบจะเรียกน้ำตาจากสาวกการ์ตูนญี่ปุ่นได้มากน้อยเพียงใด
แต่สิ่งหนึ่งที่เรา The MATTER ขอกระซิบไว้เพราะแอบไปดูมาเรียบร้อยแล้วคือการผจญภัยน่าติดตามมาก เจ้าแมวเหมียวน่ารัก และที่สำคัญ หนังได้รับแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์จริงที่ญี่ปุ่นเมื่อปี 2011 ด้วย
ดูตัวอย่าง ‘การผนึกประตูของซุซุเมะ’ ได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=IaKVheVZtt0
อ้างอิง
https://www.imdb.com/name/nm1396121/
https://www.plotter.in.th/?p=17482
#MakotoShinkai #YourName #Suzume #TheMATTER