วันนี้ (12 พฤษภาคม) ปราศรัยใหญ่ ‘คำตอบสุดท้าย ก้าวไกลทั้งแผ่นดิน’ ของพรรคก้าวไกลถูกจัดขึ้นที่อาคารกีฬาเวสน์ 1 สนามกีฬาไทยญี่ปุ่น-ดินแดง
ทั้งนี้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ขึ้นปราศรัยเป็นคนสุดท้าย ซึ่งเขาชี้ว่า “ความฝันของพวกเราเรียบง่าย และหลากหลาย แต่ประสบการณ์ชีวิตของเขาทั้งชีวิต รู้เลยว่าความฝันของพวกเราเมื่อเอามารวมกันจะใหญ่ขนาดไหน แต่ข้อจำกัดทางการเมืองใหญ่กว่า”
พร้อมกล่าวต่อว่า “เพราะฉะนั้น ผู้นำทางการเมืองคนต่อไป ต้องเป็นนายกฯ ที่พร้อมแก้ปัญหา และพาประเทศไทยไปสู่อนาคตใหม่ด้วยกัน ต้องแก้ปัญหาเก่าที่เราติดหล่มมาตลอด 17 ปีที่ผ่านมา และการจะเอาไทยออกจากความขัดแย้งทางการเมืองได้ ต้องยุติวงจรรัฐประหารชั่วนิรันดร์ ปฏิรูปกองทัพ ขณะเดียวกันต้องคืนศรัทธาให้ระบบรัฐสภาและประชาธิปไตย”
ไม่เพียงเท่านี้ พิธายังกล่าวถึง หยก เยาวชนวัย 15 ปี จำเลย ม.112 ที่อายุน้อยที่สุดในประเทศไทย โดยเขาระบุว่า “สิ่งที่ต้องการพูดในเวทีนี้อย่างมีวุฒิภาวะ คือ ต้องการให้เราตั้งสติกันใหม่ ไม่ตัดสินกันว่าการกระทำของหยกถูกหรือผิด แต่ต้องการพูดถึงคนที่เห็นต่างว่า ตอนนี้สังคมเรากำลังตั้งกำแพงหรือ กังหันลม เมื่อสังคมเปลี่ยนแปลงไป”
ยิ่งไปกว่านั้น เขาชี้ว่า นายกฯ คนต่อไป ต้องวางพระราชอำนาจและพระราชสถานะอย่างประณีต เพื่อให้ความสัมพันธ์ระหว่างกษัตริย์และประชาชนดีขึ้น ด้วยการเชิญชวนว่า 14 พฤษภาคมนี้ จะเป็นการวางอิฐก้อนแรก ด้วยการผลักดันรัฐสวัสดิการ กระจายที่ดินทำกิน สร้างงานซ่อมประเทศ ผลักดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์-ดิจิทัล ลดความเหลื่อมล้ำ และเพิ่มอัตราการเติบโตของไทยไปด้วย
“วันนี้ ผมพร้อมแล้วครับ ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีของคนไทยทุกคนในประเทศ คำตอบสุดท้ายชัดเจนตรงไปตรงมา มีลุงไม่มีเรา มีเราไม่มีลุง” พิธาประกาศกร้าวปิดท้าย