เขามาด้วยความเร็ว 82 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สิ่งที่เขาต้องทำคือรีบลดความเร็ว เพราะจู่ๆ ถนนก็พาเข้าสู่เขตจำกัดความเร็วไม่เกิน 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่แล้วก็ไม่ทัน เขาโดนตำรวจโบก และถูกปรับอ่วมถึงประมาณ 4.5 ล้านบาท หรือก็คือ 121,000 ยูโร
ชายคนนี้คือ อันแดร์ส วิคเลิฟ (Anders Wiklöf) มหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของฟินแลนด์ เจ้าของกลุ่มบริษัท Wiklöf Holding ที่ดูแลบริษัทมากกว่า 20 แห่งซึ่งทำธุรกิจในหลากหลายภาคส่วน เช่น โลจิสติกส์ ก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ การท่องเที่ยว หรือแม้แต่บริการเฮลิคอปเตอร์
วิคเลิฟรวยยังไง? คำตอบอย่างง่ายๆ คือ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาถูกปรับเพราะขับรถเร็วเกินกำหนด ในปี 2018 เขาเคยต้องจ่ายค่าปรับถึง 63,680 ยูโร (ราว 2.3 ล้านบาท) และเมื่อปี 2013 ก็เคยจ่ายค่าปรับในข้อหาเดียวกันถึง 95,000 ยูโร (ราว 3.5 ล้านบาท)
สาเหตุที่ค่าปรับดูแพงมหาศาลขนาดนั้น เป็นเพราะฟินแลนด์ใช้ระบบคำนวณค่าปรับโดยมีฐานมาจากรายได้หลังหักภาษีรายวันของผู้กระทำผิด และยิ่งขับรถเร็วเกินกำหนดมากเท่าไร ก็จะยิ่งถูกปรับมากเท่านั้น โดยตำรวจสามารถเช็คผ่านโทรศัพท์ที่เชื่อมต่อเข้ากับฐานข้อมูลผู้จ่ายภาษีส่วนกลางได้ทันที
“ผมเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ” วิคเลิฟ กล่าวกับ Nya Åland หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของหมู่เกาะโอลันด์ ประเทศฟินแลนด์ “ตอนนั้นผมเริ่มขับช้าลงแล้ว แต่มันคงไม่ทัน ก็เป็นเช่นนั่นแหละ”
วิคเลิฟกล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า “ผมได้ยินมาว่ารัฐบาลอยากประหยัดเงิน 1.5 พันล้านยูโรจากระบบสาธารณสุขในฟินแลนด์ ก็หวังว่าเงินของผมจะไปเติมเต็มช่องว่างตรงนั้นได้ ทางที่ดีที่สุดคือ ผมอยากจะให้จัดสรรไปใช้เพื่อจุดประสงค์นั้นโดยเฉพาะเลย”
อ้างอิงจาก