เราจะพยายามเขียนข่าวนี้ให้สั้นที่สุด เพราะเขียนมานับเป็นสิบครั้งแล้ว – ทุกครั้งผลก็ออกมาคล้ายๆ กัน แต่มีคนดื้ออยู่
โดยสรุปคือ ในวันนี้ (16 มิ.ย.2566) ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้ ป.ป.ช. ต้องเปิดเผยผลสอบคดีนาฬิกายืมเพื่อนให้กับผู้สื่อข่าว The MATTER ที่ยื่นขอไปตั้งแต่ปลายปี 2561 หลังจากที่ประชุม ป.ป.ช. มีมติไม่ไต่สวน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในข้อหา ‘แจ้งบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ’ กรณีสวมใส่นาฬิกาหรูกว่า 20 เรือนที่ไม่ได้อยู่ในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน โดยเชื่อคำอ้างที่ว่าเป็นนาฬิกาที่ “ยืมเพื่อนมาใส่” ไม่ได้เป็นเจ้าของเอง
กรณีนี้มีการต่อสู้กันตามตามกฎหมายหลายขั้นตอน ซึ่งปรากฏว่า ป.ป.ช. แพ้ทุกขั้นตอน
- คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร (กวฉ.) สาขาสังคม การบริหารราชการแผ่นดิน และการบังคับใช้กฎหมาย มีคำวินิจฉัยที่ 344/2562 ลงวันที่ 10 ก.ย.2562 สั่งให้ ป.ป.ช. ต้องเปิดเผยผลสอบคดีนาฬิกายืมเพื่อนและเอกสารที่เกี่ยวข้องรวม 4 รายการให้กับผู้ขอ – แต่ ป.ป.ช. ส่งให้บางรายการเท่านั้น
- ศาลปกครองกลาง มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ 2557/2562 คดีหมายเลขแดงที่ 1327/2564 ลงวันที่ 15 ก.ย.2564 สั่งให้ ป.ป.ช. ต้องเปิดเผยผลสอบคดีนาฬิกายืมเพื่อนและเอกสารที่เกี่ยวข้องรวม 2 รายการให้กับผู้ขอ – ป.ป.ช. ไม่ส่งให้เลย และยื่นอุทธรณ์
- ศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษาล่าสุด ให้ ป.ป.ช. ต้องเปิดเผยผลสอบคดีนาฬิกายืมเพื่อนให้กับผู้ขอ ภายใน 15 วันนับแต่คดีถึงที่สุด – รอดูกันว่าจะได้ข้อมูลดังกล่าวเมื่อไร หลังจากรอมา 4 ปีครึ่ง
ความจริงแล้ว กรณีนี้มีเคสที่ใกล้เคียงกันมากๆ คือคดีที่วีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) ที่ยื่นขอข้อมูลเกี่ยวกับผลสอบคดีนาฬิกายืมเพื่อนไปเหมือนกัน และศาลปกครองสูงสุดตัดสินจบไปแล้ว ในคดีหมายเลขดำที่ อ.789/2564 คดีหมายเลขแดงที่ อ.224/2566 เมื่อวันที่ 16 มี.ค.2566 ว่า ป.ป.ช. ว่าต้องเปิดเผย แต่สุดท้ายทาง ป.ป.ช. เองก็จะไม่ยอมเปิดเผยเอกสารบางรายการ – วีระก็เลยสร้างแคมเปญรวมรายชื่อประชาชนเกิน 20,000 รายชื่อ ขอให้ตั้งผู้ไต่สวนอิสระเอาผิดกับ ป.ป.ช. (ใครสนใจลองไปศึกษาแคมเปญดังกล่าวได้ที่: https://www.callthaisout.org ปัจจุบันมีผู้ร่วมลงชื่อแล้วกว่า 4,000 คน)
ว่าจะเขียนให้สั้น แต่สุดท้ายก็ไม่สั้นอยู่ดี พยายามใส่ข้อมูลอ้างอิงเท่าที่จำเป็น เผื่อใครสนใจจะไปสืบค้นข้อมูลกันต่อ
ทิ้งท้ายไว้นิดนึงว่า จริงๆ คดีนาฬิกาหรูยังไม่ถือว่าจบซะทีเดียว เพราะ ป.ป.ช. ยังอยู่ระหว่างรวบรวมข้อเท็จจริงว่าจะไต่สวน พล.อ.ประวิตร ในข้อหา ‘ร่ำรวยผิดปกติ’ และข้อหา ‘รับทรัพย์สินมูลค่าเกินที่กฎหมายกำหนด (3,000 บาท)’ หรือไม่ ที่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
