วันนี้ (13 กรกฎาคม) การประชุมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกฯ คนที่ 30 ของประเทศเริ่มแล้ว โดยล่าสุด นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว จากพรรคเพื่อไทย เป็นตัวแทนเสนอชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคก้าวไกล เพื่อโหวตเป็นนายกฯ
โดย นพ.ชลน่านระบุว่า “ขอเสนอชื่อบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีตาม รัฐธรรมนูญมาตรา 272, 159 และข้อบังคับการประชุมร่วมรัฐสภาข้อ 136 เป็นหนึ่งในเป้าหมายที่คุณสมบัติ ไม่มีลักษณะต้องห้ามตาม รัฐธรรมนูญมาตรา 160 และถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคการเมือง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 88 ขออนุญาตเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี”
ต่อมาก็มีผู้แสดงตนรับรองพิธาเป็นนายกฯ ทั้งสิ้น 302 คน ทำให้มีผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกเพียง 1 คน ก็คือ พิธา คนเดียวเท่านั้น
ในการเลือกนายกฯ วันนี้ วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภา ยังได้กล่าวถึงขั้นตอนว่า
1. สส.เท่านั้นเสนอชื่อได้ จากรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคที่มี สส.เกิน 25 คน และมีเฉพาะ สส.เท่านั้นที่รับรองได้
2.ใช้วิธีเสียบบัตรแสดงตน ซึ่งการแสดงตนในที่นี้ก็หมายถึงการรับรองตามข้อแรก โดยต้องใช้เสียงไม่น้อยกว่า 50 คน
อย่างไรก็ดี เมื่อเช้านี้ก็ยังมีรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ส.ว.เรณู ตังคจิวางกูร ได้ยื่นหนังสือแขอลาออกจากการเป็น ส.ว. ซึ่งจะมีผลตั้งแต่เมื่อวานนี้ (12 กรกฎาคม) ส่งผลให้วันนี้ มี ส.ว.ทั้งสิ้น 249 คน ทำให้สมาชิกรัฐสภา (ส.ส.และ ส.ว.) ทั้งหมดเหลือเพียง 749 คน ทำให้จำนวนการโหวตนายกรัฐมนตรีที่ต้องได้รับเสียงสนับสนุนจากรัฐสภาเกินกึ่งหนึ่งอยู่ที่ 375 คน
อ้างอิงจาก