ในวันนี้ (21 กรกฎาคม) ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล แถลงว่าจะเปิดโอกาสให้พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล โดยในประชุมสภาครั้งหน้า พรรคก้าวไกลจะเป็นผู้เสนอแคนดิเดต นายกฯ จากพรรคเพื่อไทย เช่นเดียวกับที่พรรคเพื่อไทยเคยเสนอชื่อของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พร้อมย้ำว่าเป้าหมายสูงสุดของก้าวไกลในฐานะพรรคอันดับ 1 ซึ่งก็คือการหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของรัฐบาลเดิมให้สำเร็จยังคงอยู่
การแถลงของพรรคก้าวไกลระบุว่า ในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นการประกาศเจตจำนงของประชาชนที่ชัดเจนแล้วว่าต้องการเปลี่ยนขั้วรัฐบาลด้วยการเลือกพรรคก้าวไกลและเพื่อไทย จนได้รับคะแนนเสียงมาเป็นอันดับ 1 และ 2
“ฉะนั้น เป้าหมายสูงสุดพรรคก้าวไกลในฐานะพรรคอันดับ 1 คือการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ให้สำเร็จ เพื่อหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของรัฐบาลเดิม”
แต่ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา พรรคก้าวไกลมองว่า ทุกองคาพยพของฝ่ายอนุรักษ์นิยม ทั้งการเมืองจารีต ทุนผูกขาด และสถาบันองค์กรต่างๆ ไม่ยอมให้ก้าวไกลเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล โดยการเอา ม.112 มาเป็นข้ออ้าง แล้วอ้างความจงรักภักดีมาปะทะกับการเลือกตั้งของประชาชน นอกจากนี้ยังมีการเคลื่อนไหวของ กกต. และศาลรัฐธรรมนูญเพื่อหวังตัดสิทธิทางการเมืองของแกนนำพรรคและยุบพรรคก้าวไกลให้ได้อีกเช่นกัน
รวมไปถึง พรรคก้าวไกลยังเห็นว่า ส.ว. ฝืนมติมหาชน ไม่โหวตเลือกนายก ตามเสียงส่วนใหญ่ของ ส.ส. “ทั้งยังกล้าทำลายหลักการตีความข้อบังคับของรัฐสภา ให้ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เปรียบเสมือนการล้มล้างการปกครอง ฉีกรัฐธรรมนูญผ่านกฎหมู่ เพียงเพื่อต้องการขัดขวางไม่ให้เสนอชื่อ พิธา เป็นนายกในครั้งที่ 2”
ซึ่งชัยธวัชก็ระบุว่า พรรคก้าวไกลไม่ยอมรับการตีความข้อบังคับดังกล่าว แต่ภายใต้การทำงานที่สอดประสานกัน ทั้งองคาพยพของฝ่ายอนุรักษ์นิยม “เราจำเป็นต้องขอโทษต่อพี่น้องประชาชน และยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า เขาไม่ยอมให้พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล”
อย่างไรก็ดี “การที่พิธาไม่สามารเป็นนายกได้ ไม่ได้หมายความว่าภารกิจในการตั้งรัฐบาล เพื่อพลิกขั้วอำนาจรัฐบาลจะไม่สำเร็จไปด้วย เป้าหมายสูงสุดของเราในฐานะพรรคอันดับ 1 ยังคงอยู่ นั่นคือการจัดตั้งรัฐบาลเพื่อหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของรัฐบาลเดิมให้สำเร็จ”
“สิ่งสำคัญในวันนี้ จึงไม่ใช่เรื่องพิธาจะได้เป็นนายกหรือไม่ แต่คือเรื่องประเทศไทยจะกลับสู่ประชาธิปไตยได้หรือไม่ หยุดการสืบทอดอำนาจได้หรือไม่ เมื่อเป็นเช่นนี้ พรรคก้าวไกลจะเปิดโอกาสให้ประเทศ ให้พรรคอันดับ 2 คือพรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลของพันธมิตร 8 พรรคที่เราได้ทำ MOU ร่วมกันเอาไว้ ดังนั้น ในการประชุมรัฐสภาครั้งต่อไป พรรคก้าวไกลจะเสนอชื่อแคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทย เป็นนายกฯ คนที่ 30 เช่นเดียวกับที่พรรคเพื่อไทยเคยสนับสนุนพรรคก้าวไกล”
ส่วนเงื่อนไขอื่นๆ เกี่ยวกับการจัตั้งรัฐบาล ชัยธวัชก็ระบุว่า ยังต้องรอฟังจากพรรคเพื่อไทยก่อน