แฮชแท็ก #มันจบแล้วครับนาย ยังคงขึ้นเทรนด์ X (ทวิตเตอร์) ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง หลังเมื่อวานนี้ (2 สิงหาคม) พรรคเพื่อไทยประกาศขอถอนตัวจากพรรคก้าวไกล เพื่อเดินหน้าตั้งรัฐบาลพรรคร่วมใหม่
ในวันนี้ (3 สิงหาคม) The MATTER จึงอยากชวนไปดูที่มาของประโยค “มันจบแล้วครับนาย” พร้อมด้วยสาเหตุว่าทำไมประโยคดังกล่าวถึงได้ถูกหยิบยกกลับมาใช้อีกครั้งในการเมืองไทยตอนนี้
ย้อนกลับไปในช่วงรัฐธรรมนูญปี 2540 มีการออกแบบการเมืองรูปแบบใหม่ หวังจะให้ประชาชนเลือกตั้งโดยอิงจากนโยบาย ให้เป็นการแข่งขันกันระหว่างพรรคการเมือง เพื่อสกัดกั้นกลุ่มเจ้าพ่อ-บ้านใหญ่ในพื้นที่นั้นๆ ผ่านการกำหนดคุณสมบัติของ สส. รวมไปถึงจัดตั้งองค์กรอิสระอย่าง กกต.ที่มีหน้าที่หนึ่งก็คือเข้ามาตรวจสอบเรื่องการทุจริตการเลือกตั้ง
ตระกูล ‘ชิดชอบ’ เจ้าของบ้านใหญ่ นำโดย เนวิน ชิดชอบ ที่มีฐานคะแนนเสียงอยู่ที่จังหวัดบุรีรัมย์ และในตอนนั้นก็ยังได้นั่งตำแหน่งรัฐมนตรีมาอย่างต่อเนื่องก็ปรับตัวให้เข้ากับการเมืองรูปแบบใหม่ “ก็คือเขารู้ว่ากติกาเปลี่ยน บริบทเปลี่ยน กระแสคนในสังคมเปลี่ยน เขาจะปรับตลอด ทำให้อยู่ข้างผู้ชนะตลอด แล้วก็อยู่มาได้จนถึงปัจจุบัน” ประจักษ์ ก้องกีรติ อาจารย์จากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าว
ในตอนปี 2544 กระแสพรรคไทยรักไทย (นำโดยทักษิณ ชินวัตร) ที่สู้กันด้วยนโยบายมาแรงมาก ทั้งยังได้ สส.เกินครึ่งของจังหวัด เนวินจึงปรับตัว ย้ายครอบครัวเข้าไปอยู่ในพรรคไทยรักไทย จนทำให้พรรคไทยรักไทยสามารถชนะการเลือกตั้งในบุรีรัมย์ทั้งจังหวัดในปี 2548 ได้
หลังจากที่เนวินย้ายไปอยู่ไทยรักไทย ก็ได้เป็นมือขวาของทักษิณ กระทั่งเกิดวิกฤตการเมืองเสื้อเหลือง-เสื้อแดง จนพรรคไทยรักไทยถูกยุบ ทำให้สมาชิกของพรรคย้ายไปอยู่พรรคพลังประชาชน แล้วก็โดนยุบพรรคอีกรอบ รวมทั้ง สมัคร สุนทรเวช และสมชาย วงศ์สวัสดิ์ 2 อดีตนายกฯ จากพรรคพลังประชาชนก็หลุดออกจากตำแหน่งทั้งคู่
เนวินจึงตัดสินใจย้ายออกจากกลุ่มของทักษิณ ไปเป็นกลุ่มการเมืองอิสระชื่อกลุ่มเพื่อนเนวิน ก่อนจะมาเป็นพรรคภูมิใจไทย แล้วหนุนพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อให้อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ขึ้นเป็นนายกฯ ซึ่งหลังจากนั้น ทางกลุ่มเนวินก็เป็นศัตรูกับฝั่งของทักษิณมาโดยตลอด
“มันเลยเป็นที่มาของวลีเด็ดที่คนอาจจะเคยเห็น เอามาทำมีมกันเยอะๆ ‘มันจบแล้วครับนาย’ เป็นประโยคที่คุณเนวินสื่อไปถึงคุณทักษิณ” อาจารย์ประจักษ์ระบุ
ส่วนสถานการณ์ในปัจจุบัน วลีนี้กลับมาติดเทรนด์อีกครั้งหลัง ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตบางส่วนใช้เป็นแฮชแท็กกล่าวถึงการที่พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลไม่ได้ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งบางส่วนมองว่าพรรคเพื่อไทยต้องการเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลเองอยู่แล้ว แต่รอเวลาเพื่อผลักพรรคก้าวไกลออกไป แล้วค่อยขึ้นมาจัดตั้งรัฐบาล รวมถึงบางส่วนที่มองว่าการตัดสินใจของพรรคเพื่อไทยครั้งนี้ เกิดจากความต้องการของทักษิณ และวลี ‘มันจบแล้วครับนาย’ ก็คือการรายงานให้นาย (ทักษิณ) รู้
นอกจากนี้ ก็ยังมีการคาดการณ์กันว่า เพื่อไทยอาจจะจับมือกับพรรคพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติ จนเกิดเป็นคำถามตามมาว่าทำไมเพื่อไทยถึงจับมือกับพรรคที่เคยทำรัฐประหาร
อีกทั้งมีข้อสงสัยเรื่องที่พรรคเพื่อไทยอาจจะจับมือตั้งรัฐบาลกับพรรคภูมิใจไทยอีกว่า พรรคภูมิใจไทยก็เป็นส่วนหนึ่งที่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา อดีตหัวหน้า คสช. ให้เป็นนายกฯ และยังมีอีกหลายคนที่ไม่พอใจอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.กระทรวงสาธารณสุขจากพรรคภูมิใจไทย ในเรื่องการจัดการสถานการณ์ COVID-19 โดยมองว่าอนุทินบริหารงานผิดพลาด ทั้งๆ ที่สามารถจัดการสถานการณ์ได้ดีกว่านั้น จนเป็นเหตุให้บางส่วนมองว่า จากอดีต ‘มันจบแล้วครับนาย’ ระหว่างเนวินกับทักษิณ ตอนนี้ ก็อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นใหม่อีกครั้งแล้วเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความเห็นอีกฝ่ายหนึ่งที่มองว่าพรรคเพื่อไทยทำไปด้วยความจำเป็นเพื่อให้สามารถจัดตั้งรัฐบาล และให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้เท่านั้น โดยมีการอ้างอิงจากคำแถลงของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่แถลงเมื่อวานนี้ว่า หลังจากที่เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทยได้ขึ้นเป็นนายกฯ คนที่ 30 ของประเทศ ก็จะมีการผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันที่เป็นต้นเหตุของความยากลำบากในการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ และก่อให้เกิดวิกฤตการณ์ต่างๆ ในประเทศ โดยจะให้มีการทำประชามติ และจัดตั้ง สสร. เพื่อให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หลังจากนั้นรัฐบาลก็จะคืนอำนาจให้ประชาชนได้เลือกตั้งใหม่ภายใต้กรอบกติกาของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
อย่างไรก็ดี ข้อมูลที่ปรากฏในแฮชแท็กมันจบแล้วครับนาย ก็เป็นเพียงการคาดการณ์และความเห็นของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตบางส่วนเท่านั้น
อ้างอิงจาก