วันนี้ (7 สิงหาคม) ในการแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย ผู้สื่อข่าวในงานถามถึงกรณีที่เพื่อไทยเคยออกแคมเปญ ‘ไล่หนูตีงูเห่า’ ว่าที่ภูมิใจไทยกับเพื่อไทยจับมือกันในวันนี้ นับว่าเป็นวิถีการเมืองเลยหรือเปล่า?
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็ตอบว่า “การรณรงค์หาเสียงของเพื่อไทย บางครั้งบางโอกาสกับภูมิใจไทย อาจมีลักษณะของกระทบกระทั่งกัน เช่น…การรณรงค์ว่าไล่หนูตีงูเห่า มันเป็นภาพของการรณรงค์เพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนเสียงเลือกตั้ง”
นพ.ชลน่านกล่าวต่อว่ากิจกรรมแต่ละครั้ง ก็จัดบนวัตถุประสงค์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้นๆ “มิติทางการเมืองเราไปขอเสียงสนับสนุนจาพี่น้องประชาชน เราไม่เคยประกาศว่าเราเป็นศัตรูกับใคร เราเป็นคู่แข่งกันจริง เทคนิคการหาเสียง วิธีการหาเสียง ต่างฝ่ายต่างมี”
“อันนี้เรียนด้วยความเคารพนะครับ ว่าเราไม่เคยคิดว่าเป็นศัตรูกันนะครับ โดยเฉพาะเพื่อไทยเนี่ย ไม่เคยคิดว่าเป็นศัตรูกับใคร แต่ทุกพรรคเป็นคู่แข่งทางการเมืองกัน หลังจากที่ยุติจากการมอบอำนาจในวันเลือกตั้งของพี่น้องประชาชน พี่น้องประชาชนตัดสินใจแล้วว่ามอบอำนาจให้ใคร หลังจากนั้นเราก็มาทำหน้าที่ตามที่เข้ารับมอบอำนาจ นั่นคือภารกิจที่เราต้องทำ ถ้าร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลของประชานได้ ก็ร่วมกันทำ ถ้าร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ ก็มาเป็นฝ่ายตรวจสอบ คือฝ่ายค้าน วิถีทางการเมืองเป็นอย่างนี้ครับ”
ผู้สื่อข่าวถามเรื่องที่เคยมี ‘งูเห่า’ จากพรรคเพื่อไทยไปอยู่ภูมิใจไทย กรณีดังกล่าว ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยก็ระบุว่า วันนี้ต้องยึดวิกฤตของประเทศเป็นหลัก สิ่งที่กระทบกระทั่งก็เป็นเรื่องปกติธรรมดา “แต่เราคิดว่าเราจะฝ่าวิกฤตไปด้วยกัน เรื่องนั้นใหญ่ที่สุด เราควรจะหาวิธีหาทางออกให้กับประเทศให้ได้มากที่สุด”