การประชุมรัฐสภาในวันนี้ (22 สิงหาคม) ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยขึ้นกล่าวว่า “ผมต้องขออนุญาตประธานในฐานะตัวแทนของพรรคเพื่อไทยในการเสนอชื่อผู้จะเป็นนายกรัฐมนตรีว่า วันนี้สมาชิกรัฐสภาหลายท่านได้ขึ้นอภิปรายเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามผู้ที่จะถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ จำนวนมาก ซึ่งเราและพรรคร่วมต่างขอขอบคุณ
“คุณสมบัติของนายเศรษฐา ทวีสิน ทั้งเรื่องความซื่อสัตย์ สุจริต ศีลธรรมที่เกี่ยวข้องกับการประกอบอาชีพขณะดำเนินธุรกิจในภาคเอกชน โดยที่ผ่านมาสังคมก็ให้ความสนใจและวิพากษ์วิจารณ์มากมาย ซึ่งในฐานะตัวแทนพรรคเพื่อไทยขอยืนยันว่า เราให้ความสำคัญในการตรวจสอบและลักษณะต้องห้ามคุณสมบัติแคนดิเดตนายกฯ อย่างถี่ถ้วนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการหลีกเลี่ยงภาษี การซื้อขายที่ดิน ..อย่างไรก็ตาม ผมต้องขอบคุณผู้ที่เอาเรื่องนี้มาเปิดเผยเพราะทั้งเราและประชาชนต่างได้ประโยชน์”
เขาเสริมว่า “แต่ไม่มีหลักฐานที่ยืนยันว่านายเศรษฐา ทวีสิน มีความผิดจริง ซึ่งมีเพียงแต่ข้อกล่าวหาเท่ากับว่าในขณะนี้เขายังบริสุทธิ์และมีความซื่อสัตย์ สุจริต” นอกจากนี้ ชลน่านยังระบุว่า ประเด็นที่บางคนย้ำว่าไม่สามารถโหวตให้นายเศรษฐาเป็นนายกฯ ได้ เนื่องจากจุดยืนทางการเมืองและการจัดตั้งรัฐบาลที่ไม่ชอบธรรม ไม่ว่าทั้งจากฝั่งเสรีนิยมหรืออนุรักษนิยมก็ตาม แต่เราก็เคารพและรับฟังทุกเสียง”
“ก่อนหน้านี้เราเห็นด้วยและสนับสนุนพรรคก้าวไกลให้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอย่างยิ่ง ถ้าไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับนี้ พรรคเพื่อไทยก็ไม่มีทางจับมือกับพรรคก้าวไกล หากรัฐธรรมนูญและการเมืองปกติ ต่อมาเราก็คิดผิดจริงๆ ที่จับมือกันครับ ดังนั้น ขณะนี้สิ่งที่ดีที่สุด คือ การประนีประนอมอำนาจเพื่อผลประโยชน์ของชาติ ศาสน์ กษัตริย์
ชลน่านพูดปิดท้ายว่า “ท้ายที่สุดแล้ว ทุกคนกังวลนโยบายโดยเฉพาะการแก้รัฐธรรมนูญ แต่เรายืนยันว่าเราปฏิบัติตามระเบียบรัฐธรรมนูญทุกอย่าง และผมยืนยันว่าการแก้ไขธรรมนูญเป็นเรื่องจำเป็นและสำคัญ โดยเราจะทำควบคู่กับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ดังนั้น ผมเชื่อว่าทุกฝ่ายมีเจตนาดีต่อประชาชนครับ ความแตกต่างเป็นสีสันที่สวยงามของประชาธิปไตย ซึ่งต้องมีความเห็นต่างอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม การโหวตนายเศรษฐา ทวีสินเป็นนายกฯ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่จะเอาความเห็นต่างมาประสานกันจนกลายเป็นความเห็นร่วม”
อ้างอิงจาก