เกิดอะไรขึ้นในเหตุการณ์น้ำมันรั่ว?
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 3 กันยายน เวลาประมาณ 21.00 น. เกิดเหตุน้ำมันดิบ 45,000 ลิตร รั่วไหลจากเรือบรรทุกน้ำมันขณะขนถ่ายน้ำมันดิบ บริเวณทุ่นผูกเรือกลางทะเล หมายเลข 2 (SBM-2) ของโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งประมาณการรั่วไหลของน้ำมันดิบ อยู่ในระดับที่ 2 (Tier II)
ต่อมา บริษัทฯ ก็รายงานว่า ได้เข้าปิดวาล์วท่อน้ำมันที่เกิดปัญหา วางทุ่นล้อมคราบน้ำมันเพิ่มเติม เพื่อป้องกันและจำกัดการแพร่กระจาย เพื่อควบคุมสถานการณ์บริเวณที่เกิดเหตุทันที
จนเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 4 กันยายนทีมผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า คราบน้ำมันจะมีทิศทางการเคลื่อนตัวขนานกับเกาะสีชัง แต่จากการสำรวจเมื่อเช้าวันที่ 5 กันยายน ก็ไม่พบกลุ่มคราบน้ำมันขนาดใหญ่ พบเพียงแค่แผ่นฟิล์มบางๆ บนผิวน้ำทะเลเท่านั้น
ล่าสุด ในวันนี้ (6 กันยายน) ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ให้ข้อมูลว่า จากการสำรวจคราบน้ำมันที่รั่วไหล ก็ไม่พบว่ามีคราบน้ำมันเข้าถึงชายฝั่งหาดบางพระ และอ่าวอุดมตามที่ได้คาดการณ์เอาไว้
ส่วนสาเหตุของการรั่วไหล ณัฐพล มีฤทธิ์ ผู้แทนบริษัท ไทยออยล์ก็ระบุเมื่อวันที่ 5 กันยายนว่า ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุที่ทำให้น้ำมันดิบรั่วไหลได้
สำหรับวิธีการขจัดคราบน้ำมัน ผศ.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ อาจารย์คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ระบุว่ามีวิธีอยู่ทั้งสิ้น 2 วิธี คือทุ่นกักและการใช้สารช่วยกำจัด แต่น้ำมันที่ลอยกระจายเป็นหย่อม อีกทั้งยังมีคลื่นลม วิธีนี้จึงเป็นไปได้ยาก โดยอีกวิธีหนึ่งก็คือการใช้สารเคมีขจัดคราบน้ำมัน ซึ่งทาง คพ.ก็ได้อนุมัติสารเคมี (Dispersant) จำนวน 4,500 ลิตร เป็นไปตามปริมาณน้ำมันที่รั่วไหล 1:10
แต่ถึงแม้ว่าจะไม่มีคราบน้ำมันซัดเข้าชายฝั่ง แต่เมื่อมีการใช้สารเคมี 4,500 ลิตรเพื่อขจัดคราบน้ำมัน ปิ่นสักก์ก็ระบุว่ายังคงต้องติดตามผลกระทบที่เกิดกับสัตว์ทะเล และทรัพยากรในระยะยาวอีกอย่างน้อย 1 ปี ซึ่งทาง คพ.และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ก็ยังติดตามผลกระทบโดยเก็บตัวอย่างน้ำน้ำทะเล และตะกอนดิน เพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐาน เปรียบเทียบในกรณีเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วไหล 5 จุด ได้แก่ เกาะสีชัง อ่าวอุดม เกาะลอย (บริเวณสวนสุขภาพศรีราชา) หาดบางพระ และหาดวอนนภา
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์น้ำมันรั่วใครครั้งนี้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้น โดยสำนักข่าว Thai PBS ได้รายงานข้อมูลเหตุการณ์ น้ำมันรั่วในประเทศ พบว่า
– 1 ตุลาคม 2558 – 30 กันยายน 2559 พบน้ำมันรั่วไหลรวม 15 ครั้ง
– 1 ตุลาคม 2559 – 30 กันยายน 2560 พบน้ำมันรั่วไหลรวม 10 ครั้ง
– 1 ตุลาคม 2560 – 30 กันยายน 2561 พบน้ำมันรั่วไหลรวม 14 ครั้ง
– 1 ตุลาคม 2561 – 30 กันยายน 2562 พบน้ำมันรั่วไหลรวม 15 ครั้ง
– 1 ตุลาคม 2562 – 30 กันยายน 2563 พบน้ำมันรั่วไหลรวม 47 ครั้ง
– 1 ตุลาคม 2563 – 31 กรกฎาคม 2564 พบน้ำมันรั่วไหลรวม 44 ครั้ง
ทางด้านสุภาพของประชาชนในเขตพื้นที่ที่พบการรั่วไหลของน้ำมัน หากมีอาการดังต่อไปนี้ ควรไปพบแพทย์ทันที
– ผู้ที่มีอาการอาหารเป็นพิษจากอาหารทะเล
– ทางการหายใจ: หายใจติดขัด แสบคอ คอแห้ง แสบจมูก มีน้ำมูกใสไหล มีอาการมึนงง
– กระเด็นเข้าตา: มีการระคายเคืองแสบตา ตาแดง ตาพร่ามั่ว น้ำตาไหล
– สัมผัสทางผิวหนัง: มีอาการระคายเคือง ผิวหนังอักเสบ ผื่นแดง
– หากกลืนเข้าไป: มีการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายเหลวเป็นน้ำ
อ้างอิงจาก