ท่ามกลางเสียงสนับสนุนและบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความยินดีของประชาชนชาวนิการากัว หลังเชย์นิส ปาลาซิโอส (Sheynnis Palacios) ตัวแทนประเทศ คว้ามงกุฎ Miss Universe 2023 ไปได้ไม่นาน แต่นั่นมาใช่กับรัฐบาลเผด็จการของนิการากัวที่สั่งห้ามไม่ให้เธอกลับประเทศ
แล้วที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้น ทำไมจึงเป็นอย่างนั้น? วันนี้ (27 พฤศจิกายน) The MATTER สรุปไว้ให้แล้ว
เรื่องราวดังกล่าว คงต้องย้อนกลับไปในตอนที่ประชาชนลุกขึ้นมาต่อต้านแผนการปฏิรูประบบหลักประกันสังคม ที่รัฐบาลประกาศเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2018 จนเกิดการปะทะขึ้นระหว่างกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจกับประชาชนที่เข้าชุมนุม
ความโกรธเคืองต่อรัฐบาลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อมีรายงานจากกลุ่มผู้ชุมนุมอ้างว่า เจ้าหน้าที่รัฐก็ใช้กำลังเกินกว่าเหตุ มีการทำร้ายร่างกายและยิงประชาชน ในขณะเดียวกัน ทางฝั่งรัฐบาลก็กล่าวหากลุ่มผู้ชุมนุมว่าเป็นกลุ่มก่อการร้ายเช่นกัน
ทั้งนี้ ในระหว่างวันที่ 18-25 เมษายน 2018 มีรายงานว่ามีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 435 ราย และเสียชีวิตอย่างน้อย 26 ราย
การประท้วงรัฐบาลยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ทางกลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับผู้เสียชีวิต พร้อมทั้งยังเรียกร้องให้เกิดการปฏิรูปการเมืองให้เป็นประชาธิปไตยที่หลายคนเชื่อว่าจะไม่สามารถสำเร็จได้เลย ถ้าเผด็จการทหารอย่างประธานาธิบดีแดเนียล ออร์เตกา (Daniel Ortega) ยังคงดำรงอยู่ในตำแหน่ง
แล้วทำไมปาลาซิโอสจึงถูกรัฐบาลสั่งห้ามเข้าประเทศ? มีการเผยแพร่รายงานว่า มหาวิทยาลัยที่ปาลาซิโอสเรียนจบ คือที่เดียวกับมหาวิทยาลัยที่ใช้เป็นศูนย์กลางในการประท้วงต่อต้านรัฐบาล ทั้งยังพบโพสต์ในเฟซบุ๊กของเธอที่เห็นว่าเธอเข้าร่วมการชุมนุมและภาพดังกล่าวก็ได้แพร่กระจายออกไปในวงกว้าง รวมถึงยังมีกลุ่มผู้ชุมนุมยืนยันว่าเธอได้เข้าร่วมการชุมนุมในครั้งนั้นอีกด้วย
ต่อมา เมื่อปาลาซิโอสครองตำแหน่ง Miss Universe 2023 ประชาชนจำนวนมากก็ได้ออกมาแสดงความยินดีกับชัยชนะของเธอ พร้อมกับชูธงสีฟ้าขาว ซึ่งในความเป็นจริง ประชาชนทั่วไปของนิการากัวไม่สามารถออกมาเดินขบวนถือธงชาติหรือชุมนุมใดๆ ได้
นอกจากนี้ ในวันที่ปาลาซิโอสได้รับตำแหน่ง เธอยังสวมชุดสีฟ้า-ขาว ซึ่งเป็นสีของการต่อต้านรัฐบาล และเป็นชุดที่มีการตีความว่าชุดดังกล่าว เป็นการแสดงออกในทางการเมืองของเธออีกเช่นกัน
นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้รัฐบาลมองว่าเธอเป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้านรัฐบาล และมีคำสั่งไม่ให้เธอกลับเข้าประเทศ โดยต่อมา ยังมีรายงานเพิ่มเติมอีกว่าคาเรน เซเลเบิร์ตติ (Karen Celebertti) ผู้อำนวยการการประกวด Miss Universe นิการากัว และลูกสาวก็ถูกเจ้าหน้าที่ห้ามไม่ให้เข้าประเทศเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมาอีกด้วย
อ้างอิงจาก