ที่ผ่านมาเรามักจะได้ยินคำว่าเงินซื้อความสุขไม่ได้ แต่นั่นก็อาจจะไม่ใช่ทั้งหมด เพราะการที่คนเรามีเงินในบัญชีธคารที่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต ก็เป็นส่วนช่วยทำให้ความเครียดลดน้อยลง และยังสามารถเพิ่มความสุขโดยรวมของชีวิตได้
จากการศึกษาพบว่า รายได้ที่มากขึ้น มีความสัมพันธ์กับระดับความพึงพอใจในชีวิต โดยบริษัทการเงิน ‘Empower’ พบว่า 6 ใน 10 ของชาวอเมริกันมองว่าเงินสามารถซื้อความสุขได้ และเงินเหล่านั้นก็ต้องเพียงพอต่อความต้องการด้วยเช่นกัน
เมื่อถามต่อว่าเงินที่จะสามารถซื้อความสุขได้นั้นมีราคาเท่าไหร่ ชาวอเมริกันโดยเฉลี่ยระบุว่าต้องใช้เงินราว 1.2 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 42 ล้านบาท) ซึ่งสามารถแบ่งได้ดังนี้
– Baby boomer ต้องใช้เงิน 1 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 35 ล้านบาท)
– Gen X ต้องใช้เงินราว 1.2 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 42 ล้านบาท)
– Gen Y (คนรุ่นมิลเลนเนียล) ต้องใช้เงิน 1.7 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 60 ล้านบาท)
– Gen Z ต้องใช้เงิน 487,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 17 ล้านบาท)
แม้ชาวอเมริกันส่วนใหญ่จะบอกว่าพวกเขาต้องการเงินจำนวนมากเพื่อทำให้พวกเขามีความสุขได้ แต่แค่การมีเงิน ก็ไม่ใช่ปัจจัยเดียวเท่านั้น เพราะการได้เงินตรงเวลาและเต็มจำนวนที่ควรจะได้ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้ชาวอเมริกัน 67% มีความสุข
นอกจากนี้ ชาวอเมริกัน 65% ยังระบุว่าความสุขคือการไม่มีหนี้ และมีชาวอเมริกัน 54% ที่ระบุว่าคือการได้เพลิดเพลินกับความหรูหราเล็กๆ น้อยๆ ในทุกๆ วันคือความสุขของพวกเขา ทั้งนี้ 17% ระบุว่าการได้มีเงินถึงระดับหนึ่ง ทำให้พวกเขามีความสุขทางการเงิน
อย่างไรก็ดี จากการสำรวจยังพบอีกว่า 75% ของชาวอเมริกันมีความสุขดี โดยพวกเขาให้คะแนนความสุขของตัวเองอยู่ที่ 7 เต็ม 10 หรือมากกว่านั้น
อ้างอิงจาก