ในร่างกายมนุษย์ทุกคนมีสิ่งที่เรียกว่า ‘นาฬิกาชีวภาพ’ ติดตั้งอยู่ มันคือระบบของร่างกายที่ทำให้เราแต่ละคนตอบสนองต่อเวลาไม่เหมือนกัน ทำให้บางคนถนัดทำงานตอนกลางคืน บางคนกระฉับกระเฉงในช่วงเช้า ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นผลจากสภาพแวดล้อม มากพอกับกรรมพันธุ์และโครงสร้างซับซ้อนทางชีววิทยาในร่างกายแต่ละคน
งานวิจัยล่าสุดทำให้เราเข้าใจแนวคิดนี้ขึ้นไปอีกขั้น เมื่อ จอห์น คาปา ศาสตราจารย์ด้านพันธุกรรมวิทยา จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียและทีมได้ทำการทดลองเปรียบเทียบดีเอนเอของมนุษย์ปัจจุบันกับฟอสซิลของมนุษย์โบราณนีแอนเดอร์ทัล และพบว่ามนุษย์ที่ชอบตื่นเช้ามีดีเอนเอบางตัวที่คล้องจองกับนีแอนเดอร์ทัล หรือแปลได้ว่าสาเหตุที่บางคนตื่นเช้าอาจเป็นเพราะดีเอนเอของมนุษย์โบราณนีแอนเดอร์รัลอยู่ในร่างกาย
ต้องอธิบายเล็กน้อยว่าสายพันธุ์มนุษย์ปัจจุบันเรียกว่า ‘โฮโมเซเปียนส์’ แต่นักวิทยาศาสตร์ค้นพบตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 2000 แล้วว่า ครั้งหนึ่งโฮโมเซเปียนส์เคยมีสัมพันธ์สวาทกับมนุษย์โบราณสายพันธุ์อื่น ทั้งนีแอนเดอร์รัลและเดนิโซวาน ทำให้เรามีดีเอนเอของมนุษย์หลากสายพันธุ์อยู่ในร่างกาย
ในการทดลองนี้ ทีมนักวิจัยได้ใช้ดีเอนเอจาก UK Biobank ศูนย์ข้อมูลจีโนมขนาดใหญ่ของอังกฤษเพื่อทดลองเปรียบเทียบดีเอของนีแอนเดอร์รัลกับอาสาสมัครกว่า 500,000 ราย พร้อมทั้งทำแบบสอบถามเกี่ยวกับสุขภาพและการนอนหลับ ก่อนพบความสัมพันธ์ระหว่างอาสาสมัครกลุ่มที่ชอบตื่นเช้ากับดีเอนเอของมนุษย์โบราณนีแอนเดอร์ทัล
อย่างไรก็ตาม งานวิจัยครั้งนี้ใช้ข้อมูลจากคนอังกฤษเท่านั้น และคาปาวางแผนที่จะใช้ข้อมูลทางพันธุกรรมของอาสาสมัครกลุ่มอื่น ซี่งถ้าพวกเขาพบความสัมพันธ์เช่นเดิม งานวิจัยชิ้นนี้อาจทำให้เราเข้าใจได้มากขึ้นถึงนาฬิกาชีวภาพในร่างกายของมนุษย์ และอาจช่วยแก้ปัญหาเรื่องการนอนของคนจำนวนมาก ซึ่งสัมพันธ์กับโรคมะเร็ง, โรคอ้วน และโรคอื่นๆ อีกมาก
“งานวิจัยชิ้นนี้ไม่เพียงเป็นก้าวสำคัญ ที่ทำให้เราเข้าใจว่าดีเอเอของนีแอนเดอร์รัลส่งผลต่อมนุษย์ปัจจุบันยังไงเท่านั้น แต่ยังปูทางให้เราเข้าใจโครงสร้างทางชีววิทยาของมนุษย์โบราณนีแอนเดอร์รัลให้มากขึ้นอีกด้วย” ไมเคิล ดันเนแมนน์ นักพันธุกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยทาทูร์ ในประเทศเอสโตเนียกล่าวชื่นชมงานวิจัยของคาปา
อ้างอิงจาก:
https://edition.cnn.com/2023/12/14/health/early-risers-neanderthal-dna-scn/index.html
https://www.nytimes.com/2023/12/14/science/neanderthal-sleep-morning-people.html
https://www.bbc.com/thai/international-56646656