เกิดอะไรขึ้นกับพลทหารกิตติธร?
เมื่อวานนี้ (22 ธันวาคม) มีรายงานว่าอัยการสั่งฟ้องนายทหารผู้รับผิดชอบการฝึก พลทหารกิตติธร เวียงบรรพต ที่เสียชีวิตเนื่องจากติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งนับว่าเป็นคดีแรกที่อัยการสั่งฟ้อง หลังจากเริ่มบังคับใช้ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 หรือ พ.ร.บ.ซ้อมทรมาน-อุ้มหาย
แล้วที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นพลทหารกิตติธร ในวันนี้ (22 ธันวาคม) The MATTER สรุปไว้ให้แล้ว
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมา ครอบครัวของพลทหารกิตติธรเดินทางไปรับที่เขาค่ายเม็งรายมหาราช จังหวัดเชียงราย แต่กลับพบว่าพลทหารกิตติธรผู้เป็นเสาหลักของครอบครัว ของชุมชนชนเผ่าพื้นเมืองชาวม้ง มีอาการอิดโรย ตัวซีด ไข้ขึ้น ซึ่งภรรยาของเขาระบุว่า ก่อนหน้านี้พลทหารกิตติธรมีบาดแผลที่หัวเข่าที่เกิจากการฝึกซ้อม ทั้งยังป่วยมาแล้วหลายวันและได้ขอให้ผู้บังคับบัญชาพาตัวเขาไปรักษาที่โรงพยาบาล แต่ไม่ได้รับอนุญาต
เมื่อครอบครัวได้เห็นอาการของพลทหารกิตติธร ภรรยาของเขาจึงขอให้ทางค่ายทหารออกใบลา แล้วนำตัวเขาไปรักษาที่โรงพยาบาลค่ายเม็งรายมหาราชในบ่ายวันเดียวกัน ซึ่งแพทย์วินิจฉัยว่าพลทหารกิตติธรติดเชื้อในกระแสเลือด แต่เมื่อพักรักษาตัวได้ 2 วัน อาการของเขาก็ไม่ดีขึ้น
จนในวันที่ 16 กรกฎาคม พลทหารกิตติธรถูกนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ในช่วงเช้า และเสียชีวิตในเวลาประมาณ 12.30 น. วันเดียวกัน ซึ่งแพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่าติดเชื้อในกระแสเลือด
“ดิฉันและครอบครัวรู้สึกข้องใจว่าทำไมไม่พาผู้ป่วยไปรักษาที่ รพ. ในตอนที่มีอาการป่วย ถ้าหากส่งตัวไปรักษาที่ รพ. และวินิจฉัยได้เร็ว แฟนก็คงไม่ต้องเสียชีวิตอย่างนี้…” แก้วกัลยา ภรรยาของพลทหารกิตติธรที่ตั้งท้องได้ 4 เดือนในขณะนั้นให้สัมภาษณ์กับไทยรัฐ
หลังจากที่มีข่าวการเสียชีวิต ทางครอบครัวของพลทหารกิตติธรก็ได้ไปพูดคุยกับตัวแทนค่ายทหาร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นครูฝึกทหาร แต่ข้อมูลที่ได้รับนั้นไม่ตรงกัน เช่น เรื่องที่พลทหารกิตติธรบอกว่าขอไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ทางค่ายระบุว่าถามไปหลายครั้งแล้วว่าจะไปหรือไม่ แต่พลทหารกิตติธรกล่าวว่าขอแค่ทานยาและนอนดูอาการที่ห้องพยาบาล
กระทั่งเมื่อวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา พ่อและภรรยาของพลทหารกิตติธร ร้องเรียนต่อพนักงานอัยการ ศูนย์ป้องกันการทรมาน – อุ้มหาย จังหวัดเชียงรายว่า มีข้อสงสัยต่อการเสียชีวิตของพลทหารกิตติธรเป็นอย่างมาก และได้ส่งร่างของเขา ไปผ่าชันสูตรศพเพื่อค้นหาสาเหตุการเสียชีวิตที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่
คดีความของพลทหารกิตติธรล่วงเลยมากว่า 6 เดือน เมื่อวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา พ่อของพลทหารกิตติธร พร้อมด้วยทนายความมูลนิธิผสานวัฒนธรรม จึงได้เข้ายื่นหนังสือถึง วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ประธานคณะกรรมาธิการการทหาร (กมธ.การทหาร) โดยมี เลาฟั้ง บัณฑิตเทอดสกุล สส.พรรคก้าวไกลเป็นตัวแทนรับหนังสือ
มูลนิธิผสานวัฒนธรรมเห็นว่า หากไม่มีการสอบข้อเท็จจริงและชี้แจงกรณีดังกล่าว จะทำให้ประชาชนไม่เชื่อมั่นต่อหน่วยงานรัฐ และคิดว่าหน่วยงานต้นสังกัดของทหารไม่ให้ความเป็นธรรม
มูลนิธิผสานวัฒนธรรมยังระบุอีกว่า ตั้งแต่ที่พลทหารกิตติธรเสียชีวิต เวลาก็ได้ล่วงเลยมากว่า 6 เดือนแล้ว แต่ญาติผู้เสียชีวิตยังไม่ได้รับการชดใช้เยียวยาและเข้าถึงความเป็นธรรมแต่อย่างใด จึงได้ยื่นหนังสือเพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีการเสียชีวิตของพลทหารกิตติธร ที่เกิดจากการฝึกทหาร การลงโทษโดยครูฝึก และการปล่อยปละละเลยของผู้บังคับบัญชาที่ไม่ส่งตัวเข้ารับการรักษาพยาบาลในเวลาอันควร
“…เป็นการกระทำที่เข้าข่ายละเมิดต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เป็นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 มาตรา 6 จึงต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมและนำผู้กระทำความผิดที่แท้จริงมาลงโทษ เพื่อเป็นการเยียวยาครอบครัวของพลทหารกิตติธร” มูลนิธิผสานวัฒนธรรมระบุ
อย่างไรก็ดี เมื่อวานนี้ สำนักข่าว The Reporters รายงานว่า อัยการมีคำสั่งฟ้องครูฝึก ฐานร่วมกระทำการโหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 นับเป็นคดีแรกหลังเริ่มบังคับใช้ พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565
อ้างอิงจาก