“นี่เป็นอีกเครื่องเตือนใจอันน่าสยดสยอง ว่าชีวิตของเด็กๆ ในซูดานต้องถูกชดใช้ไปกับความรุนแรงอันโหดร้ายเหล่านี้” แคเธอรีน รัสเซลล์ (Catherine Russell) ผู้อำนวยการบริหารของ UNICEF กล่าวในแถลงการณ์
แถลงการณ์นี้เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์สังหารหมู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งทางตอนกลางของซูดาน โดยคาดว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 150 คน ซึ่งเป็นเด็ก 35 คน และคาดว่ามีเด็กบาดเจ็บอีกกว่า 20 คน ซึ่งคาดว่าเป็นฝีมือของกองกำลังสนับสนุนเคลื่อนที่เร็ว (Rapid Support Forces – RSF)
กว่า 14 เดือนแล้วนับตั้งแต่สงครามกลางเมืองในเมืองคาร์ทูม เมืองหลวงของซูดาน ปะทุขึ้นเมื่อกลางเดือนเมษายน 2023 ซึ่งเป็นสงครามระหว่างกองทัพซูดาน (SAF) กับกองกำลังกึ่งทหาร (RSF) และนำมาซึ่งวิกฤตการพลัดถิ่นครั้งใหญ่ที่สุดในโลก
โดยนับตั้งแต่เริ่มมีการสู้รบ ข้อมูลจากสำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNOCHA) ระบุว่า มีประชาชนอย่างน้อย 8.2 ล้านคนจากประชากรทั้งหมด 49 ล้านคนของซูดานต้องออกไปจากบ้าน
และจากรายงานของโครงการข้อมูลสถานที่และเหตุการณ์ความขัดแย้งทางอาวุธ (ACLED) เมื่อเดือนเมษายน 2024 ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วเกือบ 16,000 คน ซึ่งคาดว่าเป็นตัวเลขที่ยังน้อยกว่าความเป็นจริงเพราะมีความยากลำบากในการเก็บข้อมูล
นอกจากนี้ ประชากรมากกว่าครึ่งหนึ่งต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วน รวมถึงประชาชนเกือบ 18 ล้านคน หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของประชากรทั้งหมดกำลังเผชิญกับวิกฤตความอดอยาก ซึ่งโครงการอาหารโลกของสหประชาชาติระบุว่า ซูดานเสี่ยงที่จะกลายเป็นวิกฤตความหิวโหยครั้งใหญ่ที่สุดของโลก
“สถานการณ์ตอนนี้อาจเกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ได้ หรือจริงๆ มันอาจเกิดขึ้นไปแล้ว” อลิซ ไวริมู เอ็นเดริตู (Alice Wairimu Nderitu) ที่ปรึกษาพิเศษของสหประชาชาติด้านการป้องกันการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ กล่าวกับ BBC
โดยผู้เชี่ยวชาญส่วนหนึ่งกล่าวว่า สงครามในซูดานกำลังเป็น ‘สงครามที่ถูกลืม’ จากการที่ทั่วโลกมุ่งความสนใจไปที่ความขัดแย้งในยูเครนและฉนวนกาซา
สงครามนี้ เริ่มต้นขึ้นหลังการรัฐประหารในเดือนตุลาคม 2021 ซูดานก็ถูกปกครองโดยพลเอก อับเดล ฟัตตาห์ อัล-บูร์ฮาน (Abdel Fattah al-Burhan) ผู้บัญชาการกองทัพซูดาน และประธานาธิบดีคนปัจจุบัน และมีรองประธานาธิบดีคือ พลเอก โมฮัมเหม็ด ฮัมดัน ดากาโล (Mohammed Hamad Dagolo) หรือเฮเมดตี (Hemedti) ผู้บัญชาการกองกำลัง RSF
ทั้งสองมีมุมมองด้านการบริหารประเทศและการคืนอำนาจสู่พลเรือนที่แตกต่างกัน จนเป็นชนวนสู่ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น จากการที่กองกำลัง RSF ระดมกำลังทั่วประเทศจนกองทัพซูดานมองเป็นภัยคุกคาม จนมีการเปิดฉากยิงที่ไม่ชัดเจนว่าใครเริ่มก่อน เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2023 และการปะทะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนมีการเรียกร้องให้หยุดยิงเป็นระยะ แต่ก็ไม่สำเร็จ
ไทยเองก็ได้รับผลกระทบจากสงครามนี้เช่นกัน โดยมีนักเรียนไทยจำนวนหนึ่งศึกษาต่ออยู่ที่ซูดาน ดังนั้นเมื่อเกิดสงครามขึ้น จึงได้มีการประสานงานเพื่อเข้าช่วยเหลือและอพยพคนไทยอย่างเร่งด่วน
หลังจากนี้จึงจะต้องติดตามต่อไปว่า สงครามในซูดานที่ยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่มีวี่แววว่าจะหยุดลงจะตอกย้ำวิกฤตต่อประชาชนอย่างไร หรือแม้กระทั่งผลกระทบต่อความมั่นคงของซูดานเองหลังสงคราม
อ้างอิงจาก