เมื่อวานนี้ (20 มิถุนายน 2567) มีรายงานผู้เสียชีวิตจากอากาศร้อนระหว่างประกอบพิธีฮัจญ์ (Hajj) ที่ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย (Saudi Arabia) ในปีนี้ เกิน 1,000 รายแล้ว!! โดยมากกว่าครึ่งเป็นผู้แสวงบุญที่ไม่ได้ลงทะเบียนเข้าประกอบพิธีอย่างถูกต้อง
พิธีฮัจญ์ ถือเป็นพิธีแสวงบุญอันศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาอิสลาม ซึ่งจัดขึ้นปีละครั้ง ที่มัสยิดอัลฮะรอม (Masjid al-Haram) ในเมืองมักกะฮ์ (Mecca) ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยปีนี้สำหรับห้วงเวลาประกอบพิธีฮัจญ์เริ่มตั้งแต่วันที่ 14-19 มิถุนายน 2567
พิธีดังกล่าวนับเป็นหมุดหมายที่ชาวมุสลิมทั่วโลกต่างปรารถนาจะเข้าร่วม ทำให้ในแต่ละปีมีผู้เข้าร่วมแสวงบุญที่ลงทะเบียนกับทางการซาอุดีอาระเบียกว่า 1.8 ล้านคน ในจำนวนนั้นเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศถึง 1.6 ล้านคน
อย่างไรก็ตาม ในทุกปี มีผู้แสวงบุญจำนวนมากที่ไม่ได้ลงทะเบียนหรือไม่มีใบอนุญาตที่ถูกต้องจากทางการเพื่อเข้าร่วมพิธีอันศักดิ์สิทธิ์นี้ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะแต่ละปีจะมีโควตาที่จำกัด และมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า ดังนั้นบริษัทัวร์อาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ที่อยากเข้าร่วมพิธีฮัจญ์ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า แต่เป็นการเข้าร่วมแบบไม่มีใบอนุญาตที่ถูกต้อง นอกจากจะส่งผลถึงจำนวนผู้เข้าร่วมพิธีที่เยอะเกินโควตาแล้ว ยังส่งผลถึงการดูแลที่ไม่ทั่วถึง เช่น ไม่เข้าถึงพื้นที่ปรับอากาศเพื่อคลายร้อน ไม่มีรถบัสเพื่อเดินทางไปยังจุดต่างๆ หรือการดูแลทางการแพทย์ที่ครอบคลุม
มีรายงานว่าในวันประกอบพิธีกรรมมีอุณหภูมิสูงถึง 51.8 องศาเซลเซียส ที่เมืองมักกะฮ์ ทำให้ผู้แสวงบุญเสี่ยงต่อการป่วยจากความร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคลมแดด (Heat stroke) ซึ่งเมื่อวานนี้ (20 มิถุนายน 2567) มีรายงานจากประเทศผู้เข้าร่วมแสวงบุญกว่า 10 ประเทศ ว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากความร้อนสูงถึง 1,081 คน โดยมากกว่าครึ่งหนึ่งเป็นชาวอียิปต์
สำนักข่าวเดอะการ์เดียน (The Guardian) รายงานว่าในปีนี้ ชาวอียิปต์ที่ไปแสวงบุญเสียชีวิตจำนวน 658 คน โดยจำนวน 630 คน เป็นผู้แสวงบุญที่ไม่ได้ลงทะเบียนอย่างถูกต้อง
เมื่อจำนวนผู้เสียชีวิตชาวอียิปต์ในพิธีฮัจญ์สูงอย่างชัดเจน ทำให้นายกรัฐมนตรี มอสตาฟา มัดบูลี (Mostafa Madbouly) ของอียิปต์ ดำเนินการสืบสวนอย่างจริงจังในกรณีดังกล่าว โดยพบว่ามีหลาย ‘บริษัททัวร์’ ที่เป็นนายหน้าจัดการเดินทางให้คนไปแสวงบุญในพิธีฮัจญ์แบบไม่ได้ลงทะเบียน โดยทริปดังกล่าวอาจมีราคาสูงถึง 6,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 230,000 บาทต่อคน
สำนักข่าวบีบีซี (BBC) รายงานว่าผู้แสวงบุญชาวอียิปต์จำนวนมากมาจากหมู่บ้านที่ยากจน โดยหลายคนใช้เงินออมที่สะสมมาทั้งชีวิต เพื่อเดินทางไปยังเมืองมักกะฮ์ อันเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ในศาสนาอิสลาม
“ทุกครั้งที่ฉันวิดีโอคอลหาแม่ เธอจะราดน้ำใส่หัวตัวเอง เพราะเธอทนความร้อนเหมือนอยู่ในเตาอบไม่ได้” ลูกชายของหนึ่งในผู้เสียชีวิตชาวอียิปต์กล่าวกับ BBC
เขายังกล่าวอีกว่าแม่ของเขาต้องขายเครื่องประดับ เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เพราะการไปแสวงบุญที่พิธีฮัจญ์เป็นความฝันสูงสุดของเธอ ซึ่งขณะนี้ครอบครัวของเธอยังไม่สามารถติดต่อบริษัททัวร์ที่รับผิดชอบได้
“ใครก็ตามที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัททัวร์ที่ไม่ทำตามกฎนี้จะต้องรับผิดชอบ” มัดบูลีกล่าว พร้อมกับกำชับว่ารัฐบาลอียิปต์จะดำเนินการลงโทษอย่างเด็ดขาด เพื่อป้องกันการละเมิดกฎซ้ำอีกในอนาคต และพร้อมรับผิดชอบให้ความช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียชีวิต
“ในทุก 10 ปี อุณหภูมิในพื้นที่ดังกล่าวจะเพิ่มขึ้น 0.4 องศาเซลเซียส” งานวิจัยในซาอุดีอาระเบีย ซึ่งศึกษากรณีการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในซาอุดีอาระเบีย รวมถึงเมืองมักกะฮ์ ระบุ
เหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งหลักฐานที่ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ความร้อนสามารถทำลายชีวิตคนจำนวนมากได้ หากไม่มีการจัดการที่ดีพอ และในหลายๆ ครั้ง อาจมีกรณีที่ผลกำไรสำคัญมากกว่าความปลอดภัยในชีวิตของผู้อื่น และอาจนำไปสู่คำถามว่าต่อจากนี้เราทุกคนจะสามารถปรับตัวเพื่อรับมือกับ ‘ภาวะโลกเดือด’ ที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ได้อย่างไร
อ้างอิงจาก