‘แรงงานไทย’ กว่า 10,000 คนจะเริ่มกลับไปทำงานในอิสราเอลแล้ว หลังสงครามอิสราเอล-ฮามาส ดำเนินมาแล้วกว่า 8 เดือน
วันนี้ (25 มิถุนายน 2567) เป็นวันแรกที่กระทรวงแรงงานจะเริ่มส่งคนไทยกลับไปทำงานยังประเทศอิสราเอลอีกครั้ง ซึ่งในวันนี้จะส่งคนไปในชุดแรกประมาณ 100 คน และจะตามไปอีกครั้งในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม โดยมีเป้าหมายว่าภายในปีนี้ จะส่งแรงงานไปทำงานให้ครบ 10,000 คนตามโควตาที่ได้รับในโครงการความร่วมมือระหว่างประเทศ
ย้อนกลับไปก่อนที่สงครามจะปะทุ ในภาคเกษตรกรรมของอิสราเอลมีแรงงานไทยมากถึง 30,000 คน ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มแรงงานข้ามชาติที่ใหญ่ที่สุด ดังนั้นเมื่อเกิดสงครามและแรงงานไทยกลับบ้าน อิสราเอลจึงต้องเผชิญความยากลำบากจากการขาดแคลนแรงงานเกษตรกรรม เพราะแรงงานชาวอิสราเอลเองก็ถูกเรียกเกณฑ์ทหาร และยังมีนโยบายแบนแรงงานชาวปาเลสไตน์เพื่อความปลอดภัยของประเทศ
จากข้อมูลของรัฐบาลไทย พบว่า เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 ซึ่งการสู้รบเริ่มต้นขึ้น มีคนไทย 39 คนถูกสังหาร 32 คนถูกจับเป็นตัวประกัน และเชื่อว่าในขณะนี้ยังมีอีก 6 คนที่ยังคับถูกคุมขังอยู่
ในการส่งคนกลับไปทำงานครั้งนี้ แม้แรงงานไทยจำนวนหนึ่งจะยังมีความกังวลเรื่องความปลอดภัย แต่ก็ยังคงเลือกไปทำงานในอิสราเอล เพราะได้รับค่าจ้างที่สูงกว่าในไทยหลายเท่า จึงเป็นโอกาสที่จะหาทางออกจากหนี้ก้อนโต และเป็น ‘ความหวังของครอบครัว’ ที่จะได้มีรายได้ส่งกลับมาจุนเจือครอบครัวได้
ทั้งนี้ อารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยให้คำมั่นถึงความปลอดภัยของแรงงานว่า “การที่จะส่งแรงงานไปเที่ยวนี้ มีความปลอดภัย เพราะส่งไปเฉพาะพื้นที่สีเขียว” โดยจะมีการติดตามสถานการณ์กับทางการอิสราเอล ว่าถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ทางการอิสราเอลจะมีการเตรียมการสถานที่เพื่อการอพยพให้ทันที
อ้างอิงจาก