ภาพของคู่รักหนุ่มสาวชาวจีนที่มักจะถือช่อกุหลาบช่อใหญ่ในช่วงเทศกาลซีซี (Qixi – เทศกาลเฉลิมฉลองความรักและภักดี เป็นเทศกาลโบราณของจีน) กำลังจะหายไป เมื่อ ‘เศรษฐกิจ’ ไม่เอื้อให้พวกเขาใช้ชีวิตเช่นนั้น
แม้ว่าเทศกาลซีซีในปีนี้จะตรงกับวันเสาร์ แต่บรรยากาศช่างต่างออกไปจากเดิมมาก ผู้ประกอบการเริ่มออกมาบ่นถึงลูกค้าที่บางตาลงอย่างเห็นได้ชัด โดยอ้างถึงเศรษฐกิจที่ซบเซาและตลาดงานที่อยู่ในช่วงขาลง
หัวข้อ ‘การบริโภคที่ลดลงในวันแห่งความรัก’ และ ‘คนหนุ่มสาวไม่เต็มใจจะจ่ายเงินซื้อของขวัญ’ กลายเป็นหัวข้อที่ได้รับความนิยมสูงสุดบนแพลตฟอร์มเว่ยป๋อ (Weibo) ในวันเสาร์ โดยมีผู้เข้าชมกว่า 200 ล้านครั้ง
ผู้ใช้รายหนึ่งเขียนว่า “เทศกาลชีซีไม่ได้คึกคักเหมือนปีที่ผ่านๆ มา มันให้ความรู้สึกราวกับว่าเทศกาลนี้ถูกทิ้งไปแล้ว”
เจ้าของร้านขายดอกไม้บางแห่งได้บ่นผ่านโซเชียลมีเดียว่าลูกค้าน้อย โดยโพสต์ภาพดอกกุหลาบที่ขายไม่ออกเรียงรายอยู่ตามร้าน
ขณะที่โพสต์อื่นๆ เล่าอย่างเศร้าใจว่าคู่รักเคยมีเงินใช้จ่าย ในสมัยที่เศรษฐกิจกำลังไปได้สวย แต่ปัจจุบันจีนกำลังประสบปัญหาต่างๆ มากมาย ตั้งแต่การใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ซบเซา ไปจนถึงภาวะซบเซาของอสังหาริมทรัพย์และวิกฤตหนี้สินที่ทวีความรุนแรง
อัลเฟรด วู (Alfred Wu) ผู้ช่วยศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ กล่าวว่า คนหนุ่มสาวที่เคยใช้จ่ายฟุ่มเฟือยในช่วงเทศกาลชีซี กำลังดิ้นรนหางานทำ
การที่การใช้จ่ายลดลงดูเหมือนจะสอดคล้องกับแนวโน้มการบริโภคที่อ่อนลงในช่วงสองปีที่ผ่านมา ขณะที่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในจีนอยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
อย่างไรก็ตาม ราคาบ้านใหม่ในจีนลดลง 4.9% ในเดือนที่แล้ว ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 9 ปี โดยตัวเลขดังกล่าวลดลงต่อเนื่องมาเป็นเวลา 13 เดือนแล้ว ซึ่งราคาบ้านเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่ต้องจับตามอง เนื่องจากความมั่งคั่งของครัวเรือนชาวจีนประมาณ 70% ผูกติดอยู่กับอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการใช้จ่าย
พฤติกรรมของชาวจีนเป็นปัญหาสำหรับธุรกิจทั่วโลก และรัฐบาลจีน ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทข้ามชาติตะวันตกหลายแห่ง ตั้งแต่ยักษ์ใหญ่ด้านเครื่องสำอางอย่าง L’Oreal ไปจนถึงผู้ผลิตรถยนต์อย่าง Volkswagen ได้ส่งสัญญาณเตือนถึงอุปสงค์ที่อ่อนแอในจีน ขณะที่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังคงซบเซา
อ้างอิงจาก