ข้อมูลจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเกาหลีใต้ ระบุว่า อุบัติเหตุชนแล้วหนีได้คร่าชีวิตผู้คนเกือบครึ่งหนึ่งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยหลักๆ มีสาเหตุมาจากอาการเมาสุราหรือไม่มีใบอนุญาตขับขี่
ระหว่างปี 2019 – 2023 ข้อมุลระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากการชนแล้วหนี 420 ราย ซึ่งในจำนวนนี้แบ่งเป็น 211 ราย หรือราว 50.2% ที่ถูกชนโดยผู้ขับขี่ที่ไม่มีใบอนุญาตหรือเมาสุรา นอกจากนี้ ยังมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการชนแล้วหนี 30.5%
โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีรายงานการชนแล้วหนีทั้งหมด 35,494 เคสทั่วประเทศเกาหลีใต้
การชนแล้วหนีที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตนั้นต้องได้รับโทษหนักขึ้น การชนแล้วหนีที่เกี่ยวข้องกับการเมาแล้วขับเป็นอาชญากรรมร้ายแรงที่ก่อให้เกิดโศกนาฏกรรมที่ไม่อาจเยียวยาได้สำหรับเหยื่อ ครอบครัว และเพื่อนฝูง ขณะที่ ส.ส.เกาหลีใต้ได้เรียกร้องให้ทุกคนปฏิบัติตามกฎหมายและลงโทษผู้กระทำความผิดอย่างรุนแรง
ล่าสุด ทางการเกาหลีใต้ประกาศนโยบายใหม่เพื่อแก้ปัญหาเมาแล้วขับที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยกำหนดให้ผู้กระทำผิดซ้ำต้องเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ทุกครั้งที่สตาร์ทรถ
นโยบายดังกล่าวซึ่งกำหนดให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 25 ตุลาคมนี้ บังคับใช้กับผู้ที่ถูกจับกรณีขับรถขณะเมาสุราเกินกว่า 2 ครั้งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งภายใต้กฎหมายนี้ ผู้กระทำผิดจะต้องรับผิดชอบในการติดตั้งอุปกรณ์คล้ายเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ โดยที่ต้องออกค่าใช้จ่ายเอง ซึ่งเครื่องดังกล่าวจะเป็นตัววัดว่าจะสตาร์ทรถได้หรือไม่
ข้อกำหนดดังกล่าวจะมีระยะเวลาต่อเนื่องจนกว่าผู้ขับขี่จะพ้นโทษ ซึ่งหมายความว่าผู้ที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ 2 ปี จะต้องติดตั้งอุปกรณ์ดังกล่าว และใช้ต่อไปอีก 2 ปี หลังจากที่ได้รับใบอนุญาตขับขี่คืน
อ้างอิงจาก