ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ไม่นาน โลกได้รับรู้ถึงข่าวอาชญากรรมทางเพศร้ายแรงที่เกิดขึ้นในประเทศฝรั่งเศส เมื่อ จีเซล เปลิโกต์ (Gisèle Pélicot) หญิงวัย 72 ปี เธอถูกสามีที่ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันมา 50 ปีและยังมีลูกด้วยกัน 3 คน วางยานอนหลับ และเชิญคนแปลกหน้ามากกว่า 50 คน มาล่วงละเมิดทางเพศร่างที่หมดสติของเธอรวมเป็นเวลาเกือบ 10 ปี
จีเซลตัดสินใจออกมาเปิดเผยถึงสิ่งที่เธอต้องเผชิญเพื่อเป็นอุทาหรณ์ และเป็นพลังให้กับเหยื่อข่มขืนคนอื่นๆ โดยเธอเดินหน้าสู้คดีเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้ตนเองอย่างเต็มที่ จนล่าสุดเมื่อวันพุธที่ 18 กันยายน 2024 ก็ได้มีการพิจารณาคดีไปครั้งหนึ่ง
ทนายความของชายบางคนที่ถูกกล่าวหาว่าเคยลงมือข่มขืน ได้ซักถามจีเซลถึงพฤติกรรม ชีวิตส่วนตัว และชีวิตทางเพศของเธอ รวมถึงตั้งคำถามว่าเธอหมดสติจริงหรือไม่ระหว่างการเกิดเหตุ
จีเซล กล่าวว่า เธอรู้สึกอับอายเมื่อถูกซักถามจากทนายความของฝ่ายจำเลย “ตั้งแต่ฉันมาถึงห้องพิจารณาคดีแห่งนี้ ฉันรู้สึกอับอาย ฉันได้รับการปฏิบัติเหมือนกับว่าฉันคนติดเหล้า หรือเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดเอง … ฉันได้ยินมาหมดแล้ว” เธอกล่าวในช่วงเริ่มต้นการพิจารณาคดี ด้วยท่าทางสงบและอดทนอดกลั้น
คำให้การนี้ เกิดขึ้นหลังจากโดมินิก เปลิโกต์ (Dominique Pelicot) อดีตสามีของเธอ บอกกับศาลอย่างตรงไปตรงมาว่าเกือบ 10 ปี เขาวางยาเธอและเชิญผู้ชายหลายสิบคนให้มาข่มขืนเธอ ในขณะที่เธอนอนไม่มีทางสู้
แต่จำเลยหลายคนกลับปฏิเสธว่าไม่ได้ข่มขืนจีเซล บ้างอ้างว่าถูกโดมินิกหลอก บ้างบอกว่าเชื่อว่าเธอยินยอม บางคนก็แย้งว่าการยินยอมของสามีก็เพียงพอแล้ว และบางคนคิดว่าตัวเองกำลังเข้าร่วมเกมที่คู่รักเล่นจัดฉากกัน
ด้วยเหตุนี้ ทนายฝ่ายจำเลยจึงเน้นถามคำถามเกี่ยวกับความยินยอม และจี้ว่าตกลงแล้วจีเซลรู้ตัวหรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในระหว่างที่มีการมีเพศสัมพันธ์เกิดขึ้นกว่า 90 ครั้ง
“คุณไม่เคยมีแนวโน้มที่จะรู้สึกไม่สบายใจกับเรื่องนี้เลยเหรอ” ทนายความคนหนึ่งถามจีเซล “ฉันจะไม่ตอบคำถามนี้ด้วยซ้ำ ฉันรู้สึกว่าเป็นการดูหมิ่น” เธอตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ฉันเข้าใจเลยว่าทำไมเหยื่อข่มขืนจึงไม่แจ้งความ มันคือการเปิดเผยทุกอย่างออกมาเพื่อทำให้ผู้ถูกกระทำอับอาย”
จีเซลและทนายความของเธอชี้ว่าหลักฐานจำนวนมากอย่างวิดีโอและภาพถ่ายนับพันรายการที่อดีตสามีของเธอถ่ายไว้ น่าจะเพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์ได้ว่าเธอเป็นเหยื่อและไม่รู้เลยว่าโดมินิกทำให้เธอต้องทนทุกข์ทรมานอย่างไรบ้าง ตั้งแต่ปี 2011 จนถึงปี 2020
“ฉันไม่เคยให้ความยินยอมกับโดมินิก หรือพวกผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างหลังฉันตอนนี้เลยแม้แต่วินาทีเดียว” เธอยืนยัน “ในสภาพที่ฉันเป็นอยู่ ฉันไม่สามารถตอบใครได้เลย ฉันอยู่ในอาการโคม่า วิดีโอจะยืนยันเรื่องนี้ได้”
จีเซลเน้นย้ำถึงความไม่พอใจที่หลายคนมองว่าสามีสามารถตัดสินใจแทนเธอได้ “ผู้ชายสามารถตัดสินใจแทนภรรยาของเขาได้ตั้งแต่เมื่อไร” เธอกล่าว
แต่คำถามจากทนายยังไม่จบเพียงเท่านั้น ทนายอีกคนหนึ่งตั้งคำถามเกี่ยวกับวันที่และเวลาบนวิดีโอ และถามว่า จีเซลคิดว่าการมีเพศสัมพันธ์นั้นกินเวลานานเท่ากับช่วงเวลาที่ปรากฏขึ้นบนวิดีโอหรือไม่หรือไม่ “การข่มขืนไม่ใช่คำถามของเวลา” เธอกล่าว “การพูดถึงนาที วินาที … ไม่สำคัญหรอกว่าใช้เวลานานแค่ไหน มันน่าอับอาย และน่าอับอายมากกับสิ่งที่ฉันได้ยินในห้องนี้”
อดีตสามีของจีเซล และชายอีก 50 คนที่ถูกพิจารณาคดี มีอายุตั้งแต่ 26 ถึง 74 ปี และมีอาชีพหลากหลาย ตั้งแต่นักข่าว ช่างประปา พยาบาล คนขับรถ และหลายคนเป็นเพื่อนบ้านของจีเซลด้วยซ้ำ โดยพวกเขาอาจต้องโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี หากถูกตัดสินว่ามีความผิด
ในช่วงหนึ่งระหว่างการพิจารณาคดี โดมินิกกล่าวขึ้นว่า ข้อกล่าวหาทั้งหมดเป็นเรื่องจริง พร้อมสนับสนุนสิ่งที่จีเซลพูด โดยกล่าวว่า “หยุดสงสัยเธอตลอดเวลาเถอะ … ผมทำหลายอย่างโดยที่เธอไม่รู้” รวมถึงยืนยันว่าจำเลยร่วมทั้งหมดรู้ดีว่าพวกเขากำลังทำอะไรอยู่เมื่อเขามาที่บ้านและข่มขืนจีเซล
หลังออกมาเปิดเผยเรื่องราวเหล่านี้ จีเซลได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้กับความรุนแรงทางเพศในฝรั่งเศส โดยจีเซลสามารถเลือกที่จะปกปิดตัวตนเพื่อความเป็นส่วนตัวในการพิจารณาคดีได้ แต่เธอตัดสินใจให้การพิจารณาคดีเป็นสาธารณะ และปรากฏตัวต่อสื่ออย่างเปิดเผย
เธอเล่าว่า เธอรู้สึกว่าเธอถูกกล่าวหาว่าเป็นฝ่ายผิดในห้องพิจารณาคดี ขณะที่ผู้ชาย 50 คนที่ถูกกล่าวหาว่าข่มขืนพร้อมกับสามีของเธอนั่งสังเกตการณ์ในศาล ประสบการณ์นี้ทำให้เธอเข้าใจว่าทำไมผู้หญิงมักลังเลที่จะยื่นฟ้องคดีข่มขืน
หลังจากนี้การพิจารณาคดีจะดำเนินต่อไปจนถึงเดือนธันวาคม จึงจะต้องติดตามต่อไปว่าผลของการพิจารณาจะเป็นอย่างไร และสถานการณ์อาชญากรรมทางเพศในฝรั่งเศสจะน่าเป็นห่วงมากยิ่งขึ้นหรือไม่จากเหตุการณ์ในครั้งนี้
อ้างอิงจาก