ไม่นานมานี้ (16 มกราคม 2025) สมาคมมะเร็งสหรัฐฯ (American Cancer Society หรือ ACS) รายงานว่าในสหรัฐฯ จำนวนผู้ป่วยมะเร็งที่เป็นผู้หญิง และคนอายุน้อยมีจำนวน ‘เพิ่มขึ้น’ และนับเป็นครั้งแรก ตั้งแต่ต้นทศวรรษปี 1900 ที่ผู้หญิงเป็นมะเร็งมากกว่าผู้ชาย
รายงานสถิติมะเร็งดังกล่าว ได้ศึกษาข้อมูลเชิงลึก เกี่ยวกับอัตราการเป็นมะเร็งในสหรัฐฯ โดยวิเคราะห์ข้อมูลระหว่างปี 1991 ถึง 2021 และพบว่า ผู้หญิงที่มีอายุต่ำกว่า 65 ปีมีแนวโน้มที่จะได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง มากกว่าผู้ชายในช่วงอายุเดียวกัน ซึ่งเมื่อก่อนผู้ชายในช่วงอายุดังกล่าว จะมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งมากกว่าผู้หญิง
นอกจากนี้รายงานดังกล่าวยังระบุว่า ปัจจุบันผู้หญิงที่อายุน้อย มีแนวโน้มที่จะได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง ‘มากกว่าผู้ชายเกือบสองเท่า’ โดยมะเร็งเต้านมและมะเร็งต่อมไทรอยด์ในผู้หญิง เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดแนวโน้มนี้
“มะเร็งเต้านมและมะเร็งต่อมไทรอยด์ คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของการวินิจฉัยมะเร็งทั้งหมด ในผู้หญิงที่มีอายุน้อยกว่า 50 ปี” Rebecca Siegel ผู้เขียนรายงาน และเจ้าหน้าที่อาวุโสของ ACS กล่าว โดยเธอระบุว่า มะเร็งต่อมไทรอยด์ เป็นโรคมะเร็งที่เพิ่มขึ้นเร็วที่สุด ในช่วงเวลาที่ ACS ศึกษา
สำหรับสาเหตุ Neil Iyengar ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งวิทยา จากศูนย์มะเร็ง Memorial Sloan Kettering ระบุว่าการเพิ่มขึ้นของโรคมะเร็งในคนหนุ่มสาว โดยเฉพาะในผู้หญิงอายุน้อย แสดงให้เห็นว่า “มีบางอย่างที่กว้างกว่า ความแตกต่างทางพันธุกรรมของแต่ละบุคคล”
เขากล่าวต่อว่า สาเหตุอาจมาจากปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม ตลอดจนไลฟ์สไตล์ เช่น การรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ รูปแบบการนอนที่ไม่ดี การสูบบุหรี่หรือสูบบุหรี่ไฟฟ้า และการดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งล้วนสามารถเป็นแรงผลักดันให้คนอายุน้อยมีแนวโน้มเป็นมะเร็งมากขึ้น
ด้าน William Dahut หัวหน้าฝ่ายวิทยาศาสตร์ของ ACS กล่าวว่า “มะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่ง ของประชากรที่มีอายุต่ำกว่า 85 ปี” และ ACS คาดการณ์ว่าจะมีการวินิจฉัยผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ มากกว่า 2 ล้านราย และมีผู้เสียชีวิตจากมะเร็ง 618,000 รายในปีนี้ โดยเทียบเท่ากับการสูญเสียประชากรเมืองขนาดกลาง ถึงสองแห่งในสหรัฐฯ
ผลการศึกษายังพบว่า ความแตกต่างของเชื้อชาติ ยังคงมีผลต่ออัตราการเกิดมะเร็ง โดยชาวอเมริกันพื้นเมืองมีแนวโน้มที่จะเป็นมะเร็งไต มะเร็งตับ มะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งปากมดลูกมากกว่าคนผิวขาวราว 2 ถึง 3 เท่า
ส่วนผู้หญิงผิวดำมีแนวโน้มที่จะได้รับการวินิจฉัยน้อยกว่า แต่มีแนวโน้มที่จะเสียชีวิตจากมะเร็งเต้านมมากกว่า และมีแนวโน้มที่จะเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกมากกว่าถึง 50%
ในอีกมุมหนึ่งรายงานดังกล่าวระบุว่า แม้คนจะมีแนวโน้มเป็นมะเร็งเพิ่มขึ้น แต่โดยรวมแล้วอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็ง ‘ลดลง 34%’ ตั้งแต่ปี 1991 ส่วนหนึ่งมาจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทางการแพทย์ ที่ทำให้คนตรวจพบมะเร็งในระยะเริ่มต้น
อ้างอิงจาก
acsjournals.onlinelibrary.wiley.com