วันนี้ (3 เมษายน) ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย (FCCT) องค์กรภาคประชาสังคม ไทย-เมียนมา ได้อ่านแถลงการณ์ประณามการเชิญ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย (Min Aung Hlaing) เข้าร่วมประชุมผู้นำ BIMSTEC ครั้งที่ 6 ซึ่งปัจจุบัน เดินทางถึงกรุงเทพฯ เพื่อเตรียมเข้าร่วมประชุมแล้ว
แถลงการณ์ระบุว่า “การที่รัฐบาลไทยเชิญ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย มาร่วมประชุมระดับนานาชาติถือเป็นการให้ความชอบธรรมต่ออาชญากรที่ทั่วโลกประณาม และอาจส่งผลให้กองทัพเมียนมาเข้าถึงเงินทุน และทรัพยากรในการซื้ออาวุธเพื่อทำสงครามเข่นฆ่าชีวิตคนเมียนมามากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องน่าอับอายและเสียหายต่อประเทศไทยอย่างยิ่ง
“ภาคประชาสังคมไทยจึงขอประฌามรัฐบาลไทย นำโดย แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะในการกระทำดังกล่าว รวมถึงรัฐบาลประเทศสมาชิก BIMSTEC และขอให้คำนึงหลักหลักนิติรัฐ (Legal State) หลักนิติธรรม (Rule of Law) หลักกฎหมายระหว่างประเทศ หลักสิทธิมนุษยชน และที่สำคัญที่สุดคือหลักมนุษยธรรม”
ทั้งนี้ แถลงการณ์ดังกล่าว เรียกร้องไทย และประเทศสมาชิก BIMSTEC ไม่ให้มีการเจรจาสองฝ่าย ลงนามข้อตกลงใดๆ กับผู้นำกองทัพเมียนมา ไม่ให้การต้อนรับเสมือนเป็นผู้นำประเทศ รวมถึงเรียกร้องให้ออกแถลงการณ์ร่วม ให้กองทัพเมียนมาหยุดยิงทั่วประเทศ เปิดรับความช่วยเหลือจากทีมกู้ภัยนานาชาติ และอนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าประเทศ เพื่อรายงานเหตุการณ์แผ่นดินไหว และรับรองความปลอดภัย
เมื่อวานนี้ (2 เมษายน) กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ยืนยันต่อสื่อมวลชนว่า พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย จะมาเข้าร่วมการประชุมผู้นำ BIMSTEC ครั้งที่ 6
ต่อมา ในวันนี้ นิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ อธิบายต่อสื่อมวลชนว่า ในฐานะเจ้าภาพ ไทยทำไปตามความรับผิดชอบ ตามกฎบัตรของ BIMSTEC ที่จะต้องเชิญผู้นำของสมาชิกทั้ง 6 ประเทศ เข้าร่วมประชุม เพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือระดับภูมิภาค
โฆษก กต. กล่าวต่อว่า การขาดประเทศใดประเทศหนึ่งไป จะทำให้การขับเคลื่อนไม่สมบูรณ์ ดังนั้น ไทยต้องทำงานแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ (result-based) ตามเป้าหมายที่จะทำให้ภูมิภาคมีความที่มั่งคั่ง (Prosperous) ยั่งยืน ฟื้นคืน (Resilient) และเปิดกว้าง (Open)
ความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอลสำหรับความร่วมมือหลากหลายสาขาทางวิชาการและเศรษฐกิจ (The Bay of Bengal Initiative for Multi-Sectoral Technical and Economic Cooperation หรือ BIMSTEC) คือกรอบความร่วมมือที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1997 ปัจจุบันมีสมาชิก 7 ประเทศ ได้แก่ บังกลาเทศ ภูฏาน อินเดีย เมียนมา เนปาล ศรีลังกา และไทย