กองทัพอิสราเอล ประกาศเริ่มปฏิบัติการโจมตีครั้งใหญ่ในกาซาวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (18 พฤษภาคม 2568) ผ่านปฏิบัติการภาคพื้นดิน ในขณะที่การเจรจาหยุดยิงสิ้นสุดลงโดยไม่มีความคืบหน้าใดๆ
การโจมตีครั้งนี้ กองทัพอิสราเอลอ้างว่า เพื่อยึดครองพื้นที่และทำลายโครงสร้างพื้นฐานของกลุ่มฮามาส โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในกาซา รายงานว่า การโจมตีทางอากาศครั้งนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 100 ราย และทำให้โรงพยาบาลที่ยังเปิดทำการได้แห่งสุดท้ายในพื้นที่ทางตอนเหนือของกาซาต้องปิดตัว
ตามรายงานของสถานีโทรทัศน์อัล-อักซา ที่ดำเนินการโดยกลุ่มฮามาส กลุ่มฮามาสและอิสราเอลเริ่มการเจรจาโดยไม่มีเงื่อนไขล่วงหน้า (Negotiations without precondition) คือ การเจรจาที่เริ่มต้นโดยที่ทั้งสองฝ่ายไม่ได้ตั้งเงื่อนไขใดๆ เป็นพิเศษก่อนที่จะเริ่มการพูดคุย) ในกรุงโดฮา เมืองหลวงของกาตาร์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ระหว่างการเจรจา จุดยืนที่แตกต่างกันยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ เมื่ออิสราเอลแสดงท่าทีว่าพร้อมจะยุติสงครามหากฮามาสยอมจำนน ซึ่งเป็นข้อเสนอที่กลุ่มฮามาสไม่น่าจะยอมรับ ในขณะที่ฮามาสเสนอที่จะปล่อยตัวประกันทั้งหมด หากอิสราเอลรับประกันว่าจะยุติสงคราม
มีรายงานว่า การเจรจานี้จะมุ่งเน้นไปที่การรักษาข้อตกลงหยุดยิงเป็นเวลา 2 เดือน โดยฮามาสจะปล่อยตัวประกันที่ยังมีชีวิตอยู่ประมาณครึ่งหนึ่ง จากประมาณ 20 คนที่ยังคงควบคุมตัวอยู่ ในขณะทราอิสราเอลจะปล่อยตัวชาวปาเลสไตน์หลายร้อยคนจากเรือนจำ และยุติการปิดล้อมทั้งหมดที่บังคับใช้กับกาซาตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม แต่แหล่งข่าวจากทั้งสองฝ่ายกล่าวว่า ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ของข้อตกลง
แม้จะยังไม่มีรายงานถึงข้อตกลงจากการเจรจา แต่เบื้องต้น สำนักงานของเบนจามิน เนทันยาฮู (Benjamin Netanyahu) นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ประกาศว่า จะอนุญาตให้นำอาหารจำนวนตามความต้องการขั้นพื้นฐาน เข้าสู่ฉนวนกาซา เพื่อป้องกันวิกฤตการณ์ความอดอยากที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งอิสราเอลระบุว่าเป็นความจำเป็นต่อการดำเนินปฏิบัติการทางทหารต่อไป
ด้านกองทัพอิสราเอลระบุว่า ปฏิบัติการทางทหารครั้งใหม่นี้มีเป้าหมาย “เพื่อบรรลุเป้าหมายทั้งหมดของสงครามในกาซา รวมถึงการปล่อยตัวประกันและการเอาชนะกลุ่มฮามาส” โดยจะมีการขยายการควบคุมปฏิบัติการในพื้นที่กาซา และเคลื่อนย้ายประชากรเพื่อความปลอดภัยในพื้นที่ปฏิบัติการ
นักวิเคราะห์และเจ้าหน้าที่เชื่อว่า การที่กลุ่มฮามาสยอมกลับมาเจรจาอาจเป็นผลมาจากการเยือนตะวันออกกลางของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ซึ่งมีการหารือระหว่างกาตาร์และสหรัฐฯ เพื่อผลักดันให้เกิดข้อตกลงหยุดยิงใหม่
สหประชาชาติเตือนว่าประชากรทั้งหมดในกาซากว่า 2.1 ล้านคนกำลังเผชิญกับความเสี่ยงต่อภาวะอดอยาก อันเป็นผลมาจากการสู้รบที่ยืดเยื้อตลอด 19 เดือน และการปิดกั้นความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องในช่วง 11 สัปดาห์มานี้
นอกจากนี้ ยังมีความกังวลเกี่ยวกับองค์กรใหม่ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอเมริกัน คือ มูลนิธิเพื่อมนุษยธรรมกาซา (Gaza Humanitarian Foundation – GHF) ซึ่งมีหน้าที่ในการส่งมอบความช่วยเหลือ โดยถูกวิพากษ์วิจารณ์และเตือนว่าอาจไม่เพียงพอ
ไม่เพียงเท่านั้น อิตามาร์ เบน-กวีร์ รัฐมนตรีความมั่นคงแห่งชาติของอิสราเอล ยังได้แสดงความไม่เห็นด้วยกับการอนุญาตความช่วยเหลือ โดยเชื่อว่าจะเป็นการสนับสนุนกลุ่มฮามาส
รายงานของกระทรวงสาธารณสุขในกาซา ระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตชาวปาเลสไตน์จากการโจมตีของอิสราเอลนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 เกิน 53,000 รายแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก
อ้างอิงจาก