“นี่ 2025 แล้วนะคะ”
นี่เป็นบางส่วนของคอมเมนท์ใต้คลิปวิดีโอสั้นที่เผยแพร่โดยสำนักบริหารกิจการนิสิต หรือ Chula SA ซึ่งทำคอนเทนต์ ‘ชุดที่ไม่ควรใส่ไปเรียนหรือติดต่อหน่วยงาน’ เมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา แม้ใจความสำคัญคือการสนับสนุนให้นิสิตแต่งตัวเรียบร้อย แต่แท้จริงแล้วมีปัญหาอะไรซุกซ่อนอยู่มากกว่านั้น? The MATTER สรุปให้เข้าใจง่ายๆ ไปพร้อมกัน
1.เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊ก Chula SA – Chulalongkorn Student Affairs โพสต์วิดีโอความยาวประมาณ 30 วินาที ซึ่งตัวเนื้อหาสื่อถึงชุดที่ไม่ควรใส่ไปเรียนหรือติดต่อหน่วยงานในมหาวิทยาลัย และรณรงค์ให้นิสิตใส่ชุดนักศึกษาไปเรียน โดยท้ายคลิปขึ้นเป็นโลโก้ของ Chula SA คู่กับคณะบัญชี
2.หลังจากที่คลิปถูกเผยแพร่ออกมาก็ตามมาด้วยเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย เริ่มจาก เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล นิสิตผู้เคยเคลื่อนไหวเรื่องเสรีภาพทางการศึกษา ได้ตั้งคำถามถึงเรื่องนี้ว่า การที่กิจการนิสิตจุฬาฯ ต้องร่วมมือกับคณะบัญชี เพื่อผลิตคอนเทนต์เช่นนี้อออกมา ทั้งการห้ามใส่เสื้อยืด รองเท้าแตะ ยิ่งเป็นการถ่ายทำให้บริเวณหอพักในด้วย ก็เหมือนกับอยากให้นิสิตแต่งชุดตลอดเวลาเลยหรือไม่
“เสียชื่อเอาโลโก้คณะบัญชีมาใส่ มีอะไรมากมายที่ควรทำก็เสียเวลาไปทำอะไรไร้สาระ” เนติวิทย์ ระบุบนโซเชียลมีเดียของเขาเอง
3. เรื่องราวนี้ ได้นำไปสู่ความเห็นที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น การนำเสนอเช่นนี้เหมือนกับการย้อนยุคไปสู่อดีต ราวกับว่าไม่เคยมีประเด็นนี้ถกเถียงกันมาก่อน และการแต่งชุดอื่นๆ ที่ไม่ใช่ชุดนิสิต ก็เริ่มเป็นสิ่งที่เห็นได้มากขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นปกติในช่วงหลังๆ มานี้แล้ว ขณะเดียวกัน ยังมีคำถามถึงเสรีภาพในการแต่งกายของนิสิต โดยบางคนเสนอให้จัดดีเบตระหว่างทั้งสองฝั่งเพื่อฟังเหตุผลทางวิชาการถึงการใส่ชุดนักศึกษามาเรียนกับชุดไปรเวทมาเรียนเพื่อหาทางออกที่เหมาะสม
4. ต่อมา ผศ.ดร.พรสันต์ เลี้ยงบุญเลิศชัย อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ ได้เผยแพร่โพสต์บันทึกข้อความเรื่อง อนุญาตให้นิสิตระดับปริญญาตรีเลือกแจ่งกายด้วยชุดเครื่องแบบปกติหรือชุดสุภาพเข้าเรียนในทุกรายวิชา และทุกชั่วโมงที่คณาจารย์ผู้ลงนามในบันทึกข้อความนี้เป็นอาจารย์ผู้สอน
5.โดยใจความในบันทึกข้อความระบุว่า นิสิตควรมีเสรีภาพในการแต่งกายอันเป็นเสรีภาพที่ได้รับการรับรองและคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ จึงสมควรอนุญาตให้นิสิตสามารถเลือกแต่งกายด้วยชุดเครื่องแบบปกติหรือชุดสุภาพในวันที่เข้าเรียนในทุกรายวิชา และทุกชั่วโมงที่คณาจารย์ผู้ลงนามในบันทึกข้อความนี้เป็นอาจารย์ผู้สอน และลงนามชื่อคณาจารย์ทั้ง 21 ราย
6.ผศ.ดร.พรสันต์ กล่าวบนโพสต์ว่า “ผมคิดว่าเรื่องการแต่งกายแม้บางคนจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่จริงๆ มันคือเรื่องเสรีภาพของนิสิตซึ่งไม่ใช่สิ่งที่จะเป็น หรือสร้างอุปสรรค หรือส่งผลกระทบต่อการเรียนการสอนทั้งของตัวอาจารย์ผู้สอนและตัวนิสิตเอง ก็ถ้าเมื่อเรื่องนี้เป็นเสรีภาพของนิสิตแล้ว การจะไปจำกัดหรือสร้างภาระจนเกินสมควรแก่เขาก็ไม่พึงกระทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผมเองที่สอนวิชากฎหมายรัฐธรรมนูญถูกต้องไหมครับ”
7.อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการเคลื่อนไหวเรื่องเสรีภาพการแต่งกายของนิสิตจุฬาฯ ย้อนกลับไปประมาณ 2 ปีก่อน นิสิตจุฬาฯ เคยเรียกร้องให้สามารถใส่ชุดไปรเวทเข้าสอบได้ หลังจากที่มีนิสิตคณะนิเทศศาสตร์ อ้างว่า หากแต่งตัวไม่เรียบร้อยเข้าสอบหรือไม่ใส่ชุดนิสิตจะโดนหักคะแนน ทำให้ #บังคับใส่ชุดนิสิตเข้าสอบ เกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์และถูกหยิบกลับมาพูดถึงอีกครั้ง
8.เมื่อลองสำรวจมุมมองของกลุ่มผู้ที่สนับสนุนให้บังคับใส่ชุดนิสิตมองว่า การสวมชุดนิสิตเป็นการลดความเหลื่อมล้ำ ทำให้แยกจากบุคคลภายนอกได้ง่ายขึ้น ในขณะที่ฝ่ายที่สนับสนุนให้ยกเลิกสวมชุดนิสิตมองว่า การใส่เครื่องแบบไม่สามารถลดความเหลื่อมล้ำได้จริง เนื่องจากความเหลื่อมล้ำมีอะไรที่แสดงออกมามากกว่าเสื้อผ้า นอกจากนี้ ยังมีการตั้งคำถามในแง่ของสิทธิมนุษยชนที่ไม่ควรจะตีกรอบตามแนวคิดของคนรุ่นก่อนด้วย
แล้วทุกคนคิดเห็นกันอย่างไรกับการบังคับใส่ชุดนิสิต-นักศึกษา?