ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ถึงจะบ่นเบื่อการทำงานกันแค่ไหน แต่การ ‘ทำงานหนักเกินไป’ กลับเป็นปัญหาสามัญในหลายๆ ชาติ
เกาหลีใต้เป็นอีกหนึ่งชาติที่เผชิญปัญหาคนทำงานหนักกันเกินไป ส่วนหนึ่งเกิดจากตัวกฎหมายที่เปิดช่องให้บริษัทสามารถใช้งานพนักงานได้ถึงสัปดาห์ละ 68 ชั่วโมง (ของไทยแค่สัปดาห์ละ 48 ชั่วโมง) ผลคือเหล่าซาลารีแมน-ออฟฟิศเกิร์ล และหลายๆ อาชีพต้องทำงานกันอย่างบ้าคลั่ง จนแทบไม่มีเวลาออกไปใช้ชีวิต
รัฐบาลของ ปธน.มูน แจอิน เห็นว่าการที่สมดุลการทำงานกับการใช้ชีวิต (work-life balance) พังทลาย จะสร้างปัญหาให้กับสังคมมากกว่า จึงออกกฎหมายกำหนดชั่วโมงการทำงานใหม่ ห้ามเกินสัปดาห์ละ 52 ชั่วโมง แบ่งเป็นการทำงานปกติ 40 ชั่วโมง และทำโอทีอีก 12 ชั่วโมง
เกณฑ์ใหม่นี้จะเริ่มใช้กับบริษัทใหญ่ๆ ต้นปีหน้า ส่วนบริษัทที่เล็กกว่าจะเริ่มใช้ในปี ค.ศ.2020 บริษัทใดฝ่าฝืนจะต้องถูกปรับเงินกว่า 1.78 หมื่นเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 6 แสนบาท และตัวผู้บริหารของบริษัทมีความเสี่ยงจะถูกจำคุก ถึง 2 ปี
“ผมต้องการแก้ปัญหาที่คนของเราทำงานหนักเกินไป และอยากให้ทุกๆ คนหันไปใช้ชีวิตกับครอบครัวให้มากขึ้น” มูนระบุ
จากข้อมูลขององค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) เกาหลีใต้ติดอันดับชาติที่ให้คนทำงานหนักมาก มากกว่า 2 พันชั่วโมง/ปี ร่วมกับเม็กซิโก คอสตาริกา และกรีซ ส่วนญี่ปุ่น ประเทศที่ขึ้นชื่อว่าคนทำงานกันหนักมากๆ ก็ยังทำงานเฉลี่ยเพียง 1.7 พันชั่วโมง/ปีเท่านั้น
อ้างอิงจาก
http://www.businessinsider.com/south-korea-has-dropped-its-inhumane-workweek-to-52-hours-a-week-2018-7
http://www.mol.go.th/employee/rihgt_labor%20low
https://stats.oecd.org/Index.aspx?DataSetCode=ANHRS
#Brief #TheMATTER